สัมผัส " อุทัยธานี " มีดีมากกว่าที่เคยรู้จัก - All Miles

Breaking

Home Top Ad

Monday, July 24, 2023

สัมผัส " อุทัยธานี " มีดีมากกว่าที่เคยรู้จัก


สำหรับทริปนี้ 3 วัน 2 คืน รวมพลกันที่ ททท.สำนักงานใหญ่แต่เช้าาา ด้วยรถตู้ พร้อมแล้วไปกันเลยยยยยย มุ่งสู่  จ . อุ ทั ย ธ า นี " เมืองพระชนกจักรี ปลาแรดรสดี ประเพณีเทโว ส้มโอบ้านน้ำตก มรดกโลก ห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำสะแกกรัง ตลาดนัดดังโคกระบือ "


จุดแรก คือ " วัดถ้ำเขาประทุน " ตั้งอยู่ที่ 1 หมู่ที่ 12 ต.ทัพหลวง อ.บ้านไร่  ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระนอนที่แกะจากต้นตะเคียนขนาดใหญ่ ชมศิลปะจากไม้ ความมหัศจรรย์ด้วยแรงศรัทธา 


ชมพระอุโบสถสร้างด้วยรากไม้ สวยงามที่สุดในประเทศไทย ที่ใช้รากไม้ตะเคียนทอง ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ รากไม้กันเกรา มาตบแต่ง แกะสลักพุทธประวัติอย่างสวยงาม ซึ่งขณะนี้มีการก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จ


พระอุโบสถรากไม้แห่งนี้ ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 58 ซึ่งปัจจุบันนี้ทางวัดได้จัดหาวัสดุ และหาซื้อรากไม้มาจากตามสถานที่ต่างๆ และมีญาติโยมได้ถวายให้ ทางวัดก็นำรถและคนงานไปขุดแล้วลากมาไว้ที่วัด ทางวัดได้นำปีกไม้ที่แกะสลักแล้วมาวางกองไว้บนชั้น 2 ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมทำบุญแผ่นละ 100 บาท สามารถเขียนชื่อตัวเอง และญาติๆที่จะอุทิศส่วนกุศลไปให้ไว้ด้านหลังไม้ที่แกะสลักแล้ว ช่างก็จะนำขึ้นไปติดบนเพดานฝ้า ท่านใดที่จะไปท่องเที่ยวสามารถใช้เส้นทางสายอำเภอด่านช้าง-บ้านไร่ ทางแยกเข้าวัดจะมีป้ายบอกว่าเข้าวัดถ้ำประทุนอยู่หน้าโรงงานน้ำตาลลิน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี 


ได้เวลารับประทานอาหารกลางวันมื้อแรกของจ.อุทัยธานี ที่ " ร้านรุ่งโภชนา " มาถึงที่นี่เราต้องกินปลา ร้านนี้มีเมนูให้เลือกหลายอย่าง


เดินทางกันต่อไปที่ " ต้นไม้ยักษ์บ้านสะนำ " ตั้งอยู่ที่ หมู่ 2 บ้านสะนำ ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ ต้นไม้ยักษ์ ( ต้นเซียง ) " ป่าหมากล้านต้น มนต์เสน่ห์ชุมชน มรดกแห่งแผ่นดิน "

ต้นไม้ยักษ์ บ้านสะนำ คือต้นเซียงยักษ์เก่าแก่อายุหลายร้อยปีที่มีขนาดเส้นรอบวงราว 40 คนโอบ และสูงประมาณ 53 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าหมากอันเขียวขจีภายในบ้านสะนำ ต้นไม้ยักษ์แห่งนี้มีความยิ่งใหญ่ และสวยงามแปลกตา เมื่อไปยืนถ่ายรูปบริเวณโคนต้นจะยิ่งเห็นได้ชัดถึงความยิ่งใหญ่ ต้นไม้ยักษ์บ้านสะนำได้รับการอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดีเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติในท้องถิ่น และยังได้ชื่อว่าเป็น Unseen แห่งอำเภอบ้านไร่อีกด้วย ต้นไม้ยักษ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของนายเฮียง


จากนั้นไปชมบรรยากาศ ลานกางเต๊นท์ " ยางนาแค้มป์ " ท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม มีลำธารน้อยๆ ไหลผ่าน มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย โดยเฉพาะมีปลั๊กไฟให้ลูกค้าที่มาพักสามารถเสียบไฟใช้ได้ อยู่ตามจุดต่างๆ ในลานกางเต๊นท์


ต่อด้วยคาเฟ่ที่ร้าน " LOOM CAFE " ตั้งอยู่ที่ หมู่2 165 ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ โทร 0846295419 หรือจะตั้งgps ปักหมุดที่ร้านได้เลย

เป็นร้านกาแฟที่อยู่ในหุบเขา ท่ามกลางธรรมชาติ ที่จอดรถสะดวกสบาย บรรยากาศดี มีมุมถ่ายรูปเยอะ มีให้เลือกทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน รวมถึงกาแฟ-เครื่องดื่มอื่นๆ และเบเกอรี่ ที่นี้หอมอร่อย


ช่วงบ่ายๆกับอากาศที่คลายความร้อนลง ไปต่อกันที่ " วัดถ้ำเขาวง " ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3r6oN5KXReCntqCB8 เปิดให้เข้าชมทุกวัน 08.00-18.00 น.


วัดถ้ำเขาวง เป็นวัดสวยสุด อันซีน แห่งอุทัยธานีที่ไม่ควรพลาด จุดเด่น คือ มีเรือนไทยประยุกต์สวยงาม สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง วัดตั้งอยู่ติดริมเขา ท่ามกลางความเขียวขจีของต้นไม้ใหญ่ ทิวทัศน์บริเวณรอบๆ ด้านหลังเป็นภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ นอกจากนี้หน้าวัดยังมีสระน้ำขนาดใหญ่ และมีสะพานข้าม สะพานนี้เป็นสะพานที่ประกอบขึ้นจากไม้ตามธรรมชาติ ไม่ได้ผ่านการปรับแต่งรูปร่าง แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกัน จนมีความแปลกตา ป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักเข้ามาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกจากจุดนี้สามารถมองเห็นตัวเรือนไม้สักได้อย่างงดงาม และมีสวนสวยงามอยู่ทั่วบริเวณ ร่มรื่นมาก


ภายในเรือนไทยค่อนข้างโล่งกว้าง ชั้นสองประดิษฐานพระพุทธรูปและรอยพระพุทธบาทจำลอง ให้กราบไหว้ขอพร นอกจากนี้ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างรวมอยู่ เช่น พระพุทธชินราชจำลอง หลวงพ่อโต พระสังขจายน์ เจ้าแม่กวนอิม เองค์พระสีวลี ที่ประดิษฐานอยู่กลางน้ำ

อุโมงค์ที่จำลองคล้ายถ้ำ เป็นสถานที่ถวายสังฆทาน มีการจัดเตรียมชุดสังฆทานไว้ให้ประชาชนได้ถวายเป็นสิริมงคล วัดถ้ำเขาวง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.


ได้เวลาพักผ่อนกันแล้วจ้าาา กับบรรยากาศที่พักที่ต้องร้อง ว้าวๆๆๆๆๆ " โรงแรมอวตาร มิราเคิลส์ " ตั้งอยู่ที่ 454 หมู่ 3 ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ ห่างจากวัดถ้ำเขาวง 1.6 กิโลเมตร


สัมผัสกับประสบการณ์ในการพักอาศัยในแบบที่ไม่สามารถหาได้จากที่ใด ด้วยห้องพักสไตล์ทันสมัยที่ได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศคล้ายกับถ้ำที่ให้ความรู้สึกสงบนิ่ง เย็นสบาย และเป็นส่วนตัว ภาพเขียนสีที่ผนังตามที่ต่างๆในโรงแรมอันเป็นเอกลักษณ์นี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากถ้ำเขาปลาร้าที่มีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์อายุราว 3,000–5,000 ปี นอกจากนี้ ภายในบริเวณโรงแรมยังพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนอันสงบสุข


อีกจุดหนึ่งในโรงแรมที่ต้องร้อง ว้าวๆๆๆๆ คือ สระว่ายน้ำ ท่ามกลางธรรมชาติ มีภูเขาโอบล้อมโดยรอบ และสปาเกลือสุดพิเศษ


เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความเป็นธรรมชาติและการผ่อนคลายอย่างแท้จริง โดยพักผ่อนอยู่ในธรรมชาติที่งดงามและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะช่วยให้คุณมีความสุขและผ่อนคลาย ทั้งจากการตกแต่งห้องพักอย่างดีเยี่ยม การให้บริการที่ดีและเป็นกันเอง การเดินทางสะดวก และมีความปลอดภัยอย่างเข้มงวด คืนนี้...ฝันดี ราตรีสวัสดิ์


อรุณสวัสดิ์ วันที่ 2 ของอุทัยธานี รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมพร้อมออกเดินทางกัน ไปที่ " ตลาดซาวไฮ่ " ** มีเฉพาะเสาร์ - อาทิตย์ **

" เรียบง่าย งดงาม ตามวิถีบ้านไฮ่ บ้านเฮา " สโลแกนของตลาดแห่งนี้ ด้วยถิ่นบ้านไร่ และพื้นที่ใกล้เคียง มีความหลากหลายของชาติพันธ์ จึงเป็นตลาดอีกแห่งหนึ่ง ที่รวมตัวกันหลายเชื้อชาติ มารังสรรค์วัฒนธรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์บอกเล่าวิถีอันเรียบง่ายและงดงาม


ใช้หลักความเรียบง่ายแบบบ้านๆ เกษตรกร ผู้ประกอบการร้านค้า จำหน่ายสินค้าที่ผลิตเอง ปลูกในไร่นาสวน หรือเก็บจากป่าชุมชน เป็นผลผลิตตามฤดูกาล ร้านค้าแบบบ้านๆ ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ทุกร้านรับฝากขยะ แยกขยะ และนำไปจัดการของส่วนกลาง



ออกจากตลาด ไปกันต่อที่ " บ้านป้าจำปี ธรรมศิริ " ครูศิลป์ของแผ่นดิน ประเภทเครื่องทอ ( ผ้าทอลาวครั่ง ) ความภูมิใจของป้าถึงทุกวันนี้ คือการได้มีอาชีพ สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และ แบ่งปันความรู้ไปยังรุ่นอื่นๆ ต่อไป ชมความงดงามของผ้าทอลวดลายต่างๆ กว่าจะได้ผ้าทอแต่ละผืนต้องใช้เวลา ปัจจุบันที่บ้านป้าจำปีเป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องผ้าทอลาวครั่ง


จากนั้นเดินทางไปที่ " ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ " Amazing มากๆ ตั้งอยู่ที่ อ.บ้านไร่ -ลานสัก ก่อนเดินทาง แนะนำโทรสอบถามก่อนว่ามีน้ำไหลล้นฝายมั้ย จะได้ไม่พลาดการเดินทางและถ่ายภาพ ที่เบอร์โทร 064 039 1900


ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ เป็นฝายกั้นน้ำของชุมชนที่สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำและชะลอการไหลของน้ำ หากน้ำมีปริมาณมากเกินความจุของฝาย น้ำก็จะไหลล้นข้ามสันฝายลงสู่ด้านล่าง เกิดเป็นม่านน้ำที่สวยงาม ตกกระทบยังพื้นด้านล่างที่เป็นช่องสีเหลี่ยมกลายเป็นภาพที่ดูแปลกตา สำหรับฤดูที่เหมาะสมควรมาเที่ยวในช่วงฤดูฝน แต่ก็ต้องวัดดวงกันนิดนึงเพราะบางวันน้ำจะไม่มี ต้องเป็นช่วงหลังฝนตกหนักสัก 2-3 วัน หลังจากนั้นน้ำก็จะเยอะล้นฝายเป็นจำนวนมาก กลายเป็นม่านน้ำที่สวยงาม


รับประทานอาหารกลางวัน เดินทางกันต่อ ไปที่ " หุบป่าตาด " Unseen อุทัยธานี ป่าดึกดำบรรพ์เมืองไทยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อยู่ที่ ต. ทุ่งนางาม อ.ลานสัก
พิกัด : https://goo.gl/maps/63UmtVpYUDfvQNLWA
เปิดเข้าชม : ทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 น. – 16.00 น.
ค่าเข้าชม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
โทร : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน 0-5698-9128

หุบป่าตาด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ เป็นป่าต้นตาด ต้นไม้โบราณสายพันธุ์เดียวกับปาล์ม ความมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติแห่งเดียวในประเทศไทย เราจะต้องเดินผ่านถ้ำเข้าไปเพื่อที่จะชมป่าโบราณที่ซุกซ่อนตัวอยู่ภายใน มีเนื้อที่ 2 ไร่ ซึ่งเขาหินปูนนี้มีอายุเก่าแก่ประมาณ 245-286 ล้านปี เมื่อถูกน้ำฝนกัดเซาะเข้าก็ค่อยๆ กัดเซาะทะลุทะลวงไปตามรอยแตกของหิน จนเกิดเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในเขา ใช้เวลานับแสนนับหมื่นปี จนกระทั่งเพดานถ้ำถล่มลงมาตามกาลเวลา ก็ทำให้พืชพันธุ์ไม้ด้านบนร่วงลงมาด้วย จากนั้นจึงเกิดป่าขึ้นอยู่ภายในถ้ำนั่นเอง


เวลาเข้าไปเดินชมป่าตาดที่อยู่ด้านในต้องมีไฟฉาย ( มีบริการนักท่องเที่ยว ที่จุดจำหน่ายตั๋ว ) ยากันยุง และรองเท้าผ้าใบ ทางเดินสะดวกมาก ไม่ต้องมีการปีนป่ายอะไรแต่อย่างใด ตลอดทางจะมีป้ายให้ความรู้ของที่นี่ให้อ่าน ระยะทางเดินชมธรรมชาติก็สบายๆ ไป-กลับ 700 เมตร ใช้เวลาชมประมาณ 30 นาที มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ตรงปลายทาง ที่เราจะต้องผ่านโถงถ้ำที่มืดสนิท ประมาณ 40 เมตรไปซะก่อน หลังจากผ่านอุโมงค์แล้วก็จะเข้าพื้นที่ของป่าตาด เดินชมวิว ศึกษาธรรมชาติ และมีโถงถ้ำกลางหุบป่าตาดที่มีหินงอกหินย้อย หินงอกเอน ให้ได้ดูกันด้วย

ระหว่างทางอาจได้พบเจอสัตว์ประจำถิ่นที่นี่ เช่น เลียงผา ไก่ฟ้า แต่ที่เป็นไฮไลท์มากที่สุดของที่นี่ ก็คือ กิ้งกือมังกรสีชมพู ที่จะพบได้แค่ช่วงปลายฝนต้นหนาวของทุกปีเท่านั้น (ประมาณเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน) เป็นสัตว์หายากที่ถูกค้นพบที่ประเทศไทยในหุบป่าตาดแห่งนี้ และเป็นแห่งเดียวของประเทศไทยด้วย เมื่อโตเต็มที่จะมีลำตัวยาวประมาณ 7 เซนติเมตร

แดดร่มลมตก อากาศสบายๆ ไป " ล่องเรือ ชมวิถีชาวแพ สองฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง " พร้อมฟังบรรยาย ขณะนั่งล่องเรือชม
สอบถาม การบริการล่องเรือได้ที่ จ่ายุทธ 0946326661


ไปเดินเล่นชิวๆกันต่อที่ " ถนนคนเดินตรอกโรงยา " มีเฉพาะวันเสาร์ เวลา 16.00 น. - 20.00 น. อยู่ถนนมหาราช อ.เมือง เลือกอิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่นหลากหลายชนิด และช้อปปิ้งสินค้าน่ารัก ๆ ไปเป็นของฝากของที่ระลึก


คืนที่2 check in ที่ " พญาไม้รีสอร์ท " อยู่ติดแม่น้ำสะแกกรัง


อรุณสวัสดิ์วันที่3 รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม พร้อมออกเดินทาง ไปยัง " เขาสะแกกรัง "
เขาสะแกกรัง เป็นภูเขาที่ตั้งกั้นเมืองอุทัยอยู่ทางทิศตะวันตก ยอดเขาสะแกกรังเป็นดินแดนที่ชาวอุทัยยกให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ตั้งของวัดสังกัสรัตนคีรี เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2443 

ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของเมืองอุทัยถึงปัจจุบัน ชมความสวยงามด้านบน และชมเมืองอุทัยธานีในมุมสูง และชมบันไดขึ้นเขาสะแกกรังอันสวยงาม


หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ไปต่อกันที่ " วัดท่าซุง "
วัดท่าซุง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและงดงามของเมืองอุทัยธานี ได้รับการพัฒนาและเป็นที่รู้จักเมื่อพระราชมหาวีระ ถาวาโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พระเถระที่มีชื่อเสียง ได้สร้างอาคารต่าง ๆ มากมาย โดดเด่นด้วย พระวิหารแก้ว เป็นวิหารสำคัญที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำสร้างไว้ก่อนมรณะภาพ รวมทั้งยังเป็นที่รักษาสังขารร่างของหลวงพ่อที่ไม่เน่าเปื่อยในโลงแก้ว ภายในสร้างด้วยโมเสก สีขาว ใสดูเหมือนแก้ววาววับ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปจำลองพระพุทธชินราชซึ่งเป็นพระประทานในวิหาร อีกด้วย
วิหารแก้วจะเปิดให้ชมเป็นช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่ 9.00-11.45 น .และช่วงบ่าย 14.00-16.00 น.


ปราสาททองคำ
 ตกแต่งด้วยทองคำตระกาลตา สร้างด้วยฝีมือที่ประณีตงดงาม ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก)ที่มาของคำว่า ปราสาททองคำ (กาญจนาภิเษก) สร้างเพื่อ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเสวยราชย์เป็นปีที่ 50 และทาง สำนักพระราชวังได้ให้ชื่อปราสาททองคำใหม่ว่า “ปราสาททองกาญจนาภิเษก” ปราสาททองคำ ก่อสร้างด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ประดับลวดลายไทยปิดทองคำเปลวติดกระจก รอบนอกปราสาทใช้ทองคำเปลวปิดรอบปราสาท ใช้เป็นสถานที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปที่ญาติโยมถวายและสิ่งของสำคัญต่างๆ

ได้เวลาเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร กับทริป " ท่องเที่ยวเมืองรองอุทัยธานี "
ขอขอบคุณ กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

#AmazingThailand
#โมเมนต์ที่ใช่สร้างได้ไม่ต้องรอ
#365มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน
#365วันเที่ยวได้ไม่ต้องรอ
#ปีท่องเที่ยวไทย2566
#Meaningfultravel
#อุทัยธานี
#เที่ยวอุทัยธานี

No comments:

Post a Comment

Pages