“โรงแรมแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช รีสอร์ท” คว้ารางวัลสุดยอดดีไซน์บนเวทีระดับเอเชียด้วยผลงานการสร้างสรรค์ของ “A49” บริษัทสถาปัตยกรรมสัญชาติไทยแท้
รีสอร์ตไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ริมหาดตะวันรอน พัทยา นำเสนออัตลักษณ์ชุมชน ธรรมชาติ และความเป็นไทยในมุมมองใหม่ผสานการบริการระดับโลก สู่การตอบโจทย์นักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่างกว่าที่เคย
โรงแรมแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช คว้ารางวัล “Best New Hotel Construction & Design – Thailand” โดยมี คุณชินทัต และ คุณธนัญชกร เจียอาภา ผู้บริหารระดับสูง เข้ารับรางวัล ณ งานประกาศรางวัล Asia Pacific Property Awards 2022-2023
พัทยา ประเทศไทย – “โรงแรมแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช” (Andaz Pattaya Jomtien Beach) โรงแรมสุดหรูระดับโลกในเครือ “Hyatt” (ไฮแอท) แห่งแรกในประเทศไทย คว้ารางวัล “Best New Hotel Construction & Design – Thailand” สุดยอดโรงแรมที่มีดีไซน์ที่ดีที่สุดแห่งปี จากงาน Asia Pacific Property Awards 2022-2023 ด้วยฝีมือการออกแบบของบริษัทสถาปัตยกรรมไทย A49 พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักเดินทางปลายปีนี้
“โรงแรมแอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช” นับเป็นโรงแรมแบรนด์ “Andaz” แห่งแรกในไทยที่จะต้อนรับนักเดินทางทั่วโลกด้วยประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่ซ้ำแบบใครตั้งแต่ย่างก้าวแรกเมื่อมาถึง ด้วยการบริการที่เพียบพร้อม และกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ไปจนถึงการออกแบบที่โดดเด่น ซึ่งเป็นฝีมือการสร้างสรรค์ของ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) บริษัทสถาปัตยกรรมมากฝีมือเจ้าของรางวัลระดับนานาชาติ ภายใต้แนวความคิด “รีสอร์ตไลฟ์สไตล์ที่นำเสนออัตลักษณ์ชุมชน ธรรมชาติ และความเป็นไทยในมุมมองใหม่” ผสานการบริการระดับโลก สู่การตอบโจทย์นักเดินทางที่มองหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่าง
คุณพิชัย วงศ์ไวศยวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) กล่าวว่า “โรงแรมแอนดาซ พัทยา ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์รีสอร์ตริมชายหาดระดับโลกเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่จะพาแขกผู้เข้าพักย้อนเวลาไปพบกับความงดงามของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เมื่อทีมงานของเราเห็นที่ดินผืนนี้เป็นครั้งแรก ก็หลงเสน่ห์ในความงามของธรรมชาติของสถานที่ตั้ง โดยเฉพาะต้นไม้สูงใหญ่ที่กระจายอยู่รอบพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางและรูปแบบของรีสอร์ต ตั้งแต่ต้นก้ามปูขนาดมหึมาบริเวณทางเข้าผ่านสวนเรื่อยมาจนมาถึงกลุ่มอาคารเรือนไทยบริเวณใกล้หาด การรับรู้ถึงความงดงามและการรักษาธรรมชาติเหล่านี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เติมแต่งสิ่งใหม่เข้าไปอย่างพิถีพิถัน น่าจะสะท้อนความเป็นไทยและดึงเอาอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของสถานที่ออกมาได้อย่างแท้จริง”
โจทย์ของการออกแบบ “โรงแรมแอนดาซ พัทยา” เริ่มต้นขึ้นบนที่ดินราว 64,000 ตารางเมตร (40 ไร่) ของตระกูลเจียอาภา ตั้งอยู่ริมหาดตะวันรอนอันเงียบสงบ สะท้อนวิวพระอาทิตย์ตกอันงดงามตามธรรมชาติ และยังอยู่ใกล้กับหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ของบางเสร่ และยังคงรักษาบรรยากาศอันน่าหลงใหลที่ได้สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ล้อมรอบด้วยสวนเขียวชอุ่ม แมกไม้นานาพันธุ์ และต้นไม้สูงใหญ่กว่า 20 เมตร รวมถึงบ้านทรงไทยเดิมที่มีอายุกว่า 70 ปี ที่ทีมสถาปนิกผู้ออกแบบยังคงรักษาให้สภาพที่ดีเช่นเดิม
สภาพภูมิทัศน์ของที่ดินผืนนี้แม้เป็นตัวกำหนดภาพรวมของโรงแรมแอนดาซ พัทยา แต่ก็สร้างความท้าทายให้กับทีม A49 กับโจทย์ที่ว่า จะผสมผสานวิถีชีวิตร่วมสมัยที่หรูหราระดับ 5 ดาวให้เข้ากับธรรมชาติที่สมบูรณ์กับสวนป่านี้ได้อย่างไร โดยไม่เป็นการรบกวนธรรมชาติที่มีอยู่เดิม เราจึงได้หยิบเอาเสน่ห์ของชีวิตและวัฒนธรรมที่เรียบง่ายในชุมชนหมู่บ้านชาวประมงมานำเสนอ เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง” คุณพิชัยกล่าวเสริม
พื้นที่ต่าง ๆ ภายในโรงแรมแอนดาซ พัทยา ถูกแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ เชื่อมถึงกันด้วยสวนพันธุ์ไม้พื้นถิ่นนานาพันธุ์ ที่สร้างบรรยากาศสดชื่นโดยรอบ เมื่อผู้เข้าพักเดินทางมาถึง จะได้รับการต้อนรับด้วย “Rain Tree Court” ที่มีต้นก้ามปูขนาดมหึมาและบ่อน้ำซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณของต้นไม้เก่าแก่ ก่อนเข้าสู่ “The Village Square” พื้นที่เปิดโล่งใจกลางรีสอร์ตที่แขกสามารถพบปะสังสรรค์อย่างผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ Resort Centre, Lobby และ Teak Lounge และยังมีร้านอาหารอีก 4 แห่ง ได้แก่ “Wok Wok” ร้านอาหารไทยและอาหารเอเชีย “La Cucina” ห้องอาหารสไตล์ “Trattoria” แบบอิตาเลียนขนานแท้ “Village Butcher” ร้านสเต็กที่ปรุงเนื้อระดับพรีเมียมบนเตาถ่าน ตลอดจน “Fish Club” เป็นร้านอาหารทะเลและบาร์ริมชายหาดบรรยากาศสบาย ๆ มีสระว่ายน้ำ Infinity pool ให้ชื่นชมกับบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดง พื้นที่นี้ยังเหมาะกับการจัดปาร์ตี้ริมสระและงานเทศกาลต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีสระว่ายน้ำ Lap pool ที่เงียบสงบ และสระสำหรับครอบครัวใกล้กับ Kids’ club โดยพื้นที่ในโซนต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ที่มีทั้งครัวเปิดและเฉลียงที่มองวิวสวนใกล้ชิดธรรมชาติ
เรือนไทยไม้สักเดิมได้ถูกปรับให้เป็น “เรือนรับน้ำชา” (Teahouse) หรือสถานที่สำหรับจัดงานที่ต้องการความสงบและเป็นส่วนตัว บังกะโลแฝดและบ้านทรงไทยประยุกต์ ได้รับการดัดแปลงเป็นที่พักที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโรงแรม ได้แก่ “Manor House” บังกะโล 2 ชั้น 4 ห้องนอน และ “Presidential Heritage House” บ้านทรงไทย 6 ห้องนอน วิลล่าทั้งสองนี้มีสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัวที่ต้องการสร้างประสบการณ์ของผู้เข้าพักให้เสมือนหนี่งชาวบ้านที่ใช้ชีวิตที่นี่มายาวนาน
A49 และทีมออกแบบตกแต่งภายใน PIA ยังพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น อาทิ ไม้ไผ่สานจากชุมชนจักสานพนัสนิคมที่โด่งดัง หรืองานหินจากอ่างศิลาเข้ามาเป็นองค์ประกอบของงานออกแบบในมุมต่างๆ สะท้อนถึงความเรียบง่าย อบอุ่นและเป็นกันเอง ภายในห้องพัก ยังได้หยิบเอางานศิลปะและงานฝีมือของชุมชนต่าง ๆ มาจัดวาง โดยผสมผสานเข้ากับงานสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อสื่อถึงหมู่บ้านชาวประมงของจังหวัดชลบุรีได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ “ความยั่งยืน” ได้ถูกผสานเข้ากับการออกแบบในทุกตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็นการดึงเอาน้ำฝนและน้ำทิ้งเข้าในระบบจัดการหมุนเวียนน้ำมาใช้รดน้ำภายในสวนของโรงแรม มีระบบไฟแสงสว่าง LED ที่ควบคุมโดยการตรวจจับการเคลื่อนไหว มีระบบเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ พร้อมทั้งนโยบายการนำพลาสติกและบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำ รวมถึงการใช้วัสดุที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น การใช้ผลผลิตท้องถิ่นจากเกษตรกรรมยั่งยืนรวมถึงการนำอาหารทะเลที่ได้รับมาตรฐานรับรอง ASC และ MSC มาประกอบอาหารตลอดจนยังมีพื้นที่แปลงสวนผักปลอดสารพิษอีกด้วย
“แม้โรงแรมแอนดาซ พัทยา จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมืองพัทยาและใช้เวลาขับรถเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร แต่ก็อยู่ห่างพอที่จะสร้างความสุขสงบให้กับผู้เข้าพักได้อย่างลึกซึ้งและจะช่วยสร้างภาพพจน์ใหม่ให้แก่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้” คุณพิชัยกล่าวปิดท้าย
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ www.hyatt.com/en-US/hotel/thailand/andaz-pattaya-jomtien-beach/utpaz
คุณพิชัย วงศ์ไวศยวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) กล่าวว่า “โรงแรมแอนดาซ พัทยา ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์รีสอร์ตริมชายหาดระดับโลกเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่จะพาแขกผู้เข้าพักย้อนเวลาไปพบกับความงดงามของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เมื่อทีมงานของเราเห็นที่ดินผืนนี้เป็นครั้งแรก ก็หลงเสน่ห์ในความงามของธรรมชาติของสถานที่ตั้ง โดยเฉพาะต้นไม้สูงใหญ่ที่กระจายอยู่รอบพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางและรูปแบบของรีสอร์ต ตั้งแต่ต้นก้ามปูขนาดมหึมาบริเวณทางเข้าผ่านสวนเรื่อยมาจนมาถึงกลุ่มอาคารเรือนไทยบริเวณใกล้หาด การรับรู้ถึงความงดงามและการรักษาธรรมชาติเหล่านี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เติมแต่งสิ่งใหม่เข้าไปอย่างพิถีพิถัน น่าจะสะท้อนความเป็นไทยและดึงเอาอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของสถานที่ออกมาได้อย่างแท้จริง”
โจทย์ของการออกแบบ “โรงแรมแอนดาซ พัทยา” เริ่มต้นขึ้นบนที่ดินราว 64,000 ตารางเมตร (40 ไร่) ของตระกูลเจียอาภา ตั้งอยู่ริมหาดตะวันรอนอันเงียบสงบ สะท้อนวิวพระอาทิตย์ตกอันงดงามตามธรรมชาติ และยังอยู่ใกล้กับหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ของบางเสร่ และยังคงรักษาบรรยากาศอันน่าหลงใหลที่ได้สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ล้อมรอบด้วยสวนเขียวชอุ่ม แมกไม้นานาพันธุ์ และต้นไม้สูงใหญ่กว่า 20 เมตร รวมถึงบ้านทรงไทยเดิมที่มีอายุกว่า 70 ปี ที่ทีมสถาปนิกผู้ออกแบบยังคงรักษาให้สภาพที่ดีเช่นเดิม
สภาพภูมิทัศน์ของที่ดินผืนนี้แม้เป็นตัวกำหนดภาพรวมของโรงแรมแอนดาซ พัทยา แต่ก็สร้างความท้าทายให้กับทีม A49 กับโจทย์ที่ว่า จะผสมผสานวิถีชีวิตร่วมสมัยที่หรูหราระดับ 5 ดาวให้เข้ากับธรรมชาติที่สมบูรณ์กับสวนป่านี้ได้อย่างไร โดยไม่เป็นการรบกวนธรรมชาติที่มีอยู่เดิม เราจึงได้หยิบเอาเสน่ห์ของชีวิตและวัฒนธรรมที่เรียบง่ายในชุมชนหมู่บ้านชาวประมงมานำเสนอ เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงความเป็นไทยอย่างแท้จริง” คุณพิชัยกล่าวเสริม
พื้นที่ต่าง ๆ ภายในโรงแรมแอนดาซ พัทยา ถูกแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ เชื่อมถึงกันด้วยสวนพันธุ์ไม้พื้นถิ่นนานาพันธุ์ ที่สร้างบรรยากาศสดชื่นโดยรอบ เมื่อผู้เข้าพักเดินทางมาถึง จะได้รับการต้อนรับด้วย “Rain Tree Court” ที่มีต้นก้ามปูขนาดมหึมาและบ่อน้ำซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณของต้นไม้เก่าแก่ ก่อนเข้าสู่ “The Village Square” พื้นที่เปิดโล่งใจกลางรีสอร์ตที่แขกสามารถพบปะสังสรรค์อย่างผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ Resort Centre, Lobby และ Teak Lounge และยังมีร้านอาหารอีก 4 แห่ง ได้แก่ “Wok Wok” ร้านอาหารไทยและอาหารเอเชีย “La Cucina” ห้องอาหารสไตล์ “Trattoria” แบบอิตาเลียนขนานแท้ “Village Butcher” ร้านสเต็กที่ปรุงเนื้อระดับพรีเมียมบนเตาถ่าน ตลอดจน “Fish Club” เป็นร้านอาหารทะเลและบาร์ริมชายหาดบรรยากาศสบาย ๆ มีสระว่ายน้ำ Infinity pool ให้ชื่นชมกับบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดง พื้นที่นี้ยังเหมาะกับการจัดปาร์ตี้ริมสระและงานเทศกาลต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีสระว่ายน้ำ Lap pool ที่เงียบสงบ และสระสำหรับครอบครัวใกล้กับ Kids’ club โดยพื้นที่ในโซนต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลาย ที่มีทั้งครัวเปิดและเฉลียงที่มองวิวสวนใกล้ชิดธรรมชาติ
เรือนไทยไม้สักเดิมได้ถูกปรับให้เป็น “เรือนรับน้ำชา” (Teahouse) หรือสถานที่สำหรับจัดงานที่ต้องการความสงบและเป็นส่วนตัว บังกะโลแฝดและบ้านทรงไทยประยุกต์ ได้รับการดัดแปลงเป็นที่พักที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโรงแรม ได้แก่ “Manor House” บังกะโล 2 ชั้น 4 ห้องนอน และ “Presidential Heritage House” บ้านทรงไทย 6 ห้องนอน วิลล่าทั้งสองนี้มีสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัวที่ต้องการสร้างประสบการณ์ของผู้เข้าพักให้เสมือนหนี่งชาวบ้านที่ใช้ชีวิตที่นี่มายาวนาน
A49 และทีมออกแบบตกแต่งภายใน PIA ยังพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น อาทิ ไม้ไผ่สานจากชุมชนจักสานพนัสนิคมที่โด่งดัง หรืองานหินจากอ่างศิลาเข้ามาเป็นองค์ประกอบของงานออกแบบในมุมต่างๆ สะท้อนถึงความเรียบง่าย อบอุ่นและเป็นกันเอง ภายในห้องพัก ยังได้หยิบเอางานศิลปะและงานฝีมือของชุมชนต่าง ๆ มาจัดวาง โดยผสมผสานเข้ากับงานสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อสื่อถึงหมู่บ้านชาวประมงของจังหวัดชลบุรีได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ “ความยั่งยืน” ได้ถูกผสานเข้ากับการออกแบบในทุกตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็นการดึงเอาน้ำฝนและน้ำทิ้งเข้าในระบบจัดการหมุนเวียนน้ำมาใช้รดน้ำภายในสวนของโรงแรม มีระบบไฟแสงสว่าง LED ที่ควบคุมโดยการตรวจจับการเคลื่อนไหว มีระบบเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ พร้อมทั้งนโยบายการนำพลาสติกและบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำ รวมถึงการใช้วัสดุที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น การใช้ผลผลิตท้องถิ่นจากเกษตรกรรมยั่งยืนรวมถึงการนำอาหารทะเลที่ได้รับมาตรฐานรับรอง ASC และ MSC มาประกอบอาหารตลอดจนยังมีพื้นที่แปลงสวนผักปลอดสารพิษอีกด้วย
“แม้โรงแรมแอนดาซ พัทยา จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมืองพัทยาและใช้เวลาขับรถเพียง 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพมหานคร แต่ก็อยู่ห่างพอที่จะสร้างความสุขสงบให้กับผู้เข้าพักได้อย่างลึกซึ้งและจะช่วยสร้างภาพพจน์ใหม่ให้แก่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้” คุณพิชัยกล่าวปิดท้าย
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ www.hyatt.com/en-US/hotel/thailand/andaz-pattaya-jomtien-beach/utpaz
No comments:
Post a Comment