เมื่อวันที่18 กุมภาพันธ์ 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิด “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 40 ประจำปี 2565” ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด สัมผัสประสบการณ์ พลิกโฉมการท่องเที่ยวไทยสู่มิติใหม่ เปิดปีท่องเที่ยวไทย 2565 Amazing ยิ่งกว่าเดิม (Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters) พร้อมกันนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ศาสตราจารย์พิเศ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. ร่วมทำพิธีเปิด โดยได้รับเกียรติจากคณะทูตานุทูต ผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมงาน
ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2565 ครั้งที่ 40 เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ประจำปีของ ททท. ภายใต้แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจากวิกฤตโควิด-19 และพลิกฟื้นการท่องเที่ยวไทย โดยมุ่งเปิดความอัศจรรย์ของการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในทุกๆ ด้าน ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญา และวิถีชีวิต รวมไปถึงกิจกรรมทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า ประทับใจและแตกต่าง นำไปสู่การสร้างรายได้แก่ฐานราก ก่อเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มั่งคงอย่างยั่งยืนต่อไป
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงเทศกาลเที่ยวเมืองไทยครั้งนี้ ว่า ททท. ได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ และกรุงเทพมหานคร ตอกย้ำประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่
เสนอเมนูท่องเที่ยวแห่งความสุขควบคู่ความปลอดภัย ชูหัวใจหลักการจัดงานรูปแบบ Covid Free Event สู่ Fully Vaccinated Event โดยกำหนดผู้เข้าชมงานต้องได้รับการคัดกรอง 2 จุด คือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณจุดคัดกรองและเช็กอิน ผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ”ตามข้อกำหนดของสวนลุมพินี เมื่อเข้าชมในแต่ละโซนกิจกรรมต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด บนแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” หรือแสดงหลักฐานรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Antigen Test (ATK) ผลเป็นลบ ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการอื่น ๆ เช่น การกำหนดจำนวนผู้เข้าชมของโซนในแต่ละช่วงเวลา (1 คน / 4 ตร.ม.) ซึ่งจะติดตั้งป้ายแสดงจำนวนผู้เข้า-ออกโซนอย่างชัดเจน การกำหนดพื้นที่รับประทานอาหาร (เปิดหน้ากาก) การจองคิวชมการแสดงผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ การใช้แฟลตฟอร์ม “เพลินไทย” ตรวจสอบความหนาแน่นและรายละเอียดของแต่ละโซนงาน รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค DMHTT ตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่จัดงาน
ททท. มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวมุมมองใหม่ ส่งต่ออัตลักษณ์ท้องถิ่น ออกแบบแลนด์มาร์ก กิจกรรมชุมชน และการแสดงเชิงวัฒนธรรมและร่วมสมัย ผ่าน 5 โซนหมู่บ้าน และประสบการณ์ท่องเที่ยวใน 4 โซนกิจกรรม ได้แก่
โซนที่ 1 โฉมใหม่ท่องเที่ยวไทย AMAZING NEW CHAPTERS จุดเริ่มต้นพลิกโฉมการท่องเที่ยว TAT Studio ศูนย์ควบคุมการออกอากาศ กิจกรรมจาก อ.ส.ท. กิจกรรมท่องเที่ยวไทย สไตล์ New Chapters by TAT Modeling” โชว์นวัตกรรมท่องเที่ยวใหม่ๆ Metaverse Virtual Influencer และการให้บริการข้อมูล
ของ TAT Contact Center และกิจกรรม Coffee Showcase : ซุ้มกาแฟที่ตอกย้ำ“เที่ยวเมืองไทย Amazingยิ่งกว่าเดิม ยิ่งไปยิ่งให้ ยิ่งสุขกว่าที่เคย” ชิมกาแฟพร้อมร่วมบริจาคแก่มูลนิธิต่าง ๆ ผ่าน QR code
โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก นำเสนอแนวคิด “East at Ease สบ๊ายสบายภาคตะวันออก” (ธีมสี Emerald) สาธิตสินค้าชุมชน OTOP เล่าเรื่องราวอาหารภาคตะวันออกในสไตล์ “Food Explorer” ตอบโจทย์การกินของคนยุคใหม่ที่ชื่นชอบการแสวงหาของอร่อย ร้านลับ และอาหารท้องถิ่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวผัดปู หมูชะมวง ข้าวมันปูแจงรอนย่าง ข้าวหลามหนองมน สับปะรดตราดสีทอง และเก็บภาพแลนด์มาร์กประภาคารแหลมงอบ จ.ตราด
โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง นำเสนอแนวคิดท่องเที่ยว “เทรนดี้ C2 ภาคกลาง : 6 พลังบวกในหมู่บ้านภาคกลาง” (ธีมสี Crimson) โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์กเรือนไทยสีขาว สไตล์โมเดิร์น กับ ซุ้มประตูบ้านระจันสีขาว เพิ่มพลังใจ ด้วยศรัทธากับการจำลอง“ตะกรุดยักษ์มหารอด” วัดป่าสัก จ.ชัยนาท พร้อมอิ่มอร่อยกับร้านอาหารอร่อยเด็ด 7 ย่านน้ำในบรรยากาศตลาดย้อนยุค
โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ นำเสนอแนวคิด “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia) “ (ธีมสี Navy) พาสัมผัสแลนด์มาร์กบันไดพญานาคทางเข้าวัดหลวงขุนวิน จังหวัดเชียงใหม่ เปิดประสบการณ์เส้นทางชา-กาแฟ เทศกาลประเพณี และสาธิตงาน Craft สมัยใหม่ ตลอดจนย้อนวันวาน จำลองบรรยากาศเมืองเหนือในจังหวัดอุทัยธานี สุโขทัย และเชียงใหม่
โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ นำเสนอแนวคิด “Savory South หรอยแรงแหล่งใต้ “ (ธีมสี Silver) ผ่าน “Art of Southern” ศิลปะ วัฒนธรรมภาคใต้ การแสดงมโนราห์ หนังตะลุง และลิเกฮูลู มอบประสบการณ์ Once in a lifetime เช็กอินแลนด์มาร์กซุ้มประตู 3 วัฒนธรรม และ Street Art ภาคใต้ หรอยแรงกับอาหารปักษ์ใต้รสจัดจ้านแบบพื้นถิ่น และเพลิดเพลินการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและมโนราห์ ศิลปะรางวัลระดับโลกจาก UNESCO
โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสนอแนวคิด “Isan in love หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” (ธีมสี Ivory) ชูแหล่งท่องเที่ยว Unseen New series 5 แห่ง ได้แก่ หอโหวด จ.ร้อยเอ็ด ภูพระ จ.เลย พญานาค3 พิภพ จ.มุกดาหาร เมืองลอยฟ้าและเมืองใต้พิภพ จ.นครราชสีมา และ โลกของช้าง จ.สุรินทร์ นำเสนอเรื่องราวในมุมมองใหม่ผ่านสินค้าทางการท่องเที่ยว เชื่อมโยงวัฒนธรรมประเพณีฮีตสิบสองคองสิบสี่ สัมผัสความแซ่บนัวของอาหารถิ่นจากร้านดังภาคอีสาน 20 จังหวัด ม่วนชื่นกับอีสานสราญศิลป์ จำลองเวทีการแสดงหมอลำรูปแบบมัลติมีเดียและเก็บภาพแลนด์มาร์กหอโหวด จ.ร้อยเอ็ด กลางโซนกิจกรรม
โซนที่ 7 STREET FOOD กทม. นำเสนอสีสันมหัศจรรย์ของการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ความพิเศษของ Street Food อาหารเด็ดของกรุงเทพฯ ของดีบางกอก 50 ร้าน และ Street Art จากคลองโอ่งอ่าง
โซนที่ 8 เวทีกลาง (MAIN STAGE) การแสดงศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตแต่ละภูมิภาค
โซนที่ 9 เที่ยวไทยแบบใหม่ STYLE NEW NORMAL นำเสนอแนวคิด เส้นทางความสุข “เที่ยวไทยมั่นใจไปกับ SHA” ผ่านจิ๊กซอว์สำคัญเทรนด์การท่องเที่ยวของโลกยุคปัจจุบันสู่การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและยั่งยืน (Responsible Tourism)
แนะนำให้ผู้เข้าร่วมงานใช้บริการขนส่งสาธารณะ สามารถเดินทางเข้ามายังสวนลุมพินีได้หลายวิธี ได้แก่
ของ TAT Contact Center และกิจกรรม Coffee Showcase : ซุ้มกาแฟที่ตอกย้ำ“เที่ยวเมืองไทย Amazingยิ่งกว่าเดิม ยิ่งไปยิ่งให้ ยิ่งสุขกว่าที่เคย” ชิมกาแฟพร้อมร่วมบริจาคแก่มูลนิธิต่าง ๆ ผ่าน QR code
โซนที่ 2 หมู่บ้านภาคตะวันออก นำเสนอแนวคิด “East at Ease สบ๊ายสบายภาคตะวันออก” (ธีมสี Emerald) สาธิตสินค้าชุมชน OTOP เล่าเรื่องราวอาหารภาคตะวันออกในสไตล์ “Food Explorer” ตอบโจทย์การกินของคนยุคใหม่ที่ชื่นชอบการแสวงหาของอร่อย ร้านลับ และอาหารท้องถิ่น เช่น ก๋วยเตี๋ยวผัดปู หมูชะมวง ข้าวมันปูแจงรอนย่าง ข้าวหลามหนองมน สับปะรดตราดสีทอง และเก็บภาพแลนด์มาร์กประภาคารแหลมงอบ จ.ตราด
โซนที่ 3 หมู่บ้านภาคกลาง นำเสนอแนวคิดท่องเที่ยว “เทรนดี้ C2 ภาคกลาง : 6 พลังบวกในหมู่บ้านภาคกลาง” (ธีมสี Crimson) โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์กเรือนไทยสีขาว สไตล์โมเดิร์น กับ ซุ้มประตูบ้านระจันสีขาว เพิ่มพลังใจ ด้วยศรัทธากับการจำลอง“ตะกรุดยักษ์มหารอด” วัดป่าสัก จ.ชัยนาท พร้อมอิ่มอร่อยกับร้านอาหารอร่อยเด็ด 7 ย่านน้ำในบรรยากาศตลาดย้อนยุค
โซนที่ 4 หมู่บ้านภาคเหนือ นำเสนอแนวคิด “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia) “ (ธีมสี Navy) พาสัมผัสแลนด์มาร์กบันไดพญานาคทางเข้าวัดหลวงขุนวิน จังหวัดเชียงใหม่ เปิดประสบการณ์เส้นทางชา-กาแฟ เทศกาลประเพณี และสาธิตงาน Craft สมัยใหม่ ตลอดจนย้อนวันวาน จำลองบรรยากาศเมืองเหนือในจังหวัดอุทัยธานี สุโขทัย และเชียงใหม่
โซนที่ 5 หมู่บ้านภาคใต้ นำเสนอแนวคิด “Savory South หรอยแรงแหล่งใต้ “ (ธีมสี Silver) ผ่าน “Art of Southern” ศิลปะ วัฒนธรรมภาคใต้ การแสดงมโนราห์ หนังตะลุง และลิเกฮูลู มอบประสบการณ์ Once in a lifetime เช็กอินแลนด์มาร์กซุ้มประตู 3 วัฒนธรรม และ Street Art ภาคใต้ หรอยแรงกับอาหารปักษ์ใต้รสจัดจ้านแบบพื้นถิ่น และเพลิดเพลินการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและมโนราห์ ศิลปะรางวัลระดับโลกจาก UNESCO
โซนที่ 6 หมู่บ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เสนอแนวคิด “Isan in love หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” (ธีมสี Ivory) ชูแหล่งท่องเที่ยว Unseen New series 5 แห่ง ได้แก่ หอโหวด จ.ร้อยเอ็ด ภูพระ จ.เลย พญานาค3 พิภพ จ.มุกดาหาร เมืองลอยฟ้าและเมืองใต้พิภพ จ.นครราชสีมา และ โลกของช้าง จ.สุรินทร์ นำเสนอเรื่องราวในมุมมองใหม่ผ่านสินค้าทางการท่องเที่ยว เชื่อมโยงวัฒนธรรมประเพณีฮีตสิบสองคองสิบสี่ สัมผัสความแซ่บนัวของอาหารถิ่นจากร้านดังภาคอีสาน 20 จังหวัด ม่วนชื่นกับอีสานสราญศิลป์ จำลองเวทีการแสดงหมอลำรูปแบบมัลติมีเดียและเก็บภาพแลนด์มาร์กหอโหวด จ.ร้อยเอ็ด กลางโซนกิจกรรม
โซนที่ 7 STREET FOOD กทม. นำเสนอสีสันมหัศจรรย์ของการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ความพิเศษของ Street Food อาหารเด็ดของกรุงเทพฯ ของดีบางกอก 50 ร้าน และ Street Art จากคลองโอ่งอ่าง
โซนที่ 8 เวทีกลาง (MAIN STAGE) การแสดงศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตแต่ละภูมิภาค
โซนที่ 9 เที่ยวไทยแบบใหม่ STYLE NEW NORMAL นำเสนอแนวคิด เส้นทางความสุข “เที่ยวไทยมั่นใจไปกับ SHA” ผ่านจิ๊กซอว์สำคัญเทรนด์การท่องเที่ยวของโลกยุคปัจจุบันสู่การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและยั่งยืน (Responsible Tourism)
แนะนำให้ผู้เข้าร่วมงานใช้บริการขนส่งสาธารณะ สามารถเดินทางเข้ามายังสวนลุมพินีได้หลายวิธี ได้แก่
รถไฟฟ้า MRT สถานีสีลม ทางออกที่ 1 (ขึ้นหน้าสวนลุมพินี หลังอนุสาวรีย์ ร.6)
รถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง และเดินผ่าน Sky Walk เข้าสู่สถานี MRT สีลม ออกทางออกที่ 1 ของสถานี MRT
รถประจำทาง สาย 4, 13, 14A, 15, 29, 45, 47, 50, 62, 67, 76, 77, 89, 505
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 18 - 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.00 – 21.00 น.
ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร
รถประจำทาง สาย 4, 13, 14A, 15, 29, 45, 47, 50, 62, 67, 76, 77, 89, 505
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 18 - 22 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.00 – 21.00 น.
ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร
และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
TAT Contact Center โทร. 1672 Travel Buddy
No comments:
Post a Comment