ย่านพรานนก - ตัดใหม่ พุทธมณฑลสาย 4 ที่ตั้งของร้าน Scene Bangkok Pâtisserie & Brasserie ริมถนนใหญ่ แม้เพิ่งเปิดดำเนินกิจการได้เพียงไม่นาน แต่ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าจนแน่นขนัดตลอดวัน ภายใต้การบริหารงานของนักธุรกิจรุ่นใหม่สองพี่น้องตระกูล “ อนุวัตเมธี ” คุณลูกไม้ และคุณดุสิตา ( ซีน ) อนุวัตเมธี วันนี้พร้อมแล้วกับการเปิดประสบการณ์จากการสั่งสมฝีมือมานานนับสิบปี
ภายในบริเวณ อาณาจักร Scene Bangkok Pâtisserie & Brasserie บนเนื้อที่ 5 ไร่ ถูกจัดสรรปันส่วนออกเป็น 3 โซน จากส่วนหน้า ส่วนร้านอาหารออกแบบเป็นอาคารขนาดกะทัดรัด ใช้โทนสีขาวสะอาดตา ตัดด้วยเขียวเข้มของสวนสวยด้านหน้า
ภายในอาคารประกอบด้วยชั้นล่างและชั้นลอย ออกแบบสไตล์โมเดิร์นผสานกลิ่นไอฝรั่งเศส เน้นโทนขาวฟ้า จัดพื้นที่ส่วนกลางโถงของอาคารเป็นบาร์เปิด โชว์การทำเครื่องดื่ม ค้อกเทล ต่างๆ โดยเชฟ และรายล้อมด้วย ขนมเบเกอรี่โดยรอบผ่านตู้โชว์แสนสะอาด ด้านนอกอาคารยังจัดพื้นที่สำหรับนั่งชิลๆ แบบ Open Air สำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศสบายๆ ยามเย็น
ร้าน Scene Bangkok นำเสนอโปรดักส์ทุกประเภทระดับพรีเมี่ยมที่เกี่ยวกับเบเกอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็น พัฟฟ์ พาย ครัวซอง มาการอง ไอศกรีม เค้กวันเกิด เพิ่มเติมด้วยเมนูอาหาร ไวน์ กาแฟ
ส่วนด้านหลังเป็นโรงงานผลิตเบเกอรี่ขนาดใหญ่ ส่งสินค้าออกสู่ตลาดตามโมเดิร์นเทรด ในรูปแบบของ OEM ให้กับร้านค้าอื่นๆ ในการออกแบบโปรดักส์ ดีไซน์ งานต่างๆ การจัดสรรวัตถุดิบการนำเข้าจากฝรั่งเศสและภายในประเทศ
เยื้องอาคารร้านด้านหน้าเป็นสวนสวยที่ออกแบบตกแต่งโดยคุณแม่ของผู้บริหารทั้งสองคน และส่วนของ Zachi Omakase ต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น โดยเชฟฝีมือระดับประเทศ ประสบการณ์การปั้นซูชิกว่าหมื่นคำต่อวัน การันตีด้วยความ Premium ที่จัดว่าดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
จุดเริ่มต้นของการเปิดร้าน
ในช่วงสายของวันที่ลูกค้าหลั่งไหลเข้าสู่ร้านไม่ขาดสาย สองพี่น้องนักธุรกิจหญิงแกร่งก็ปลีกเวลามานั่งคุยกันเพื่อบอกเล่าให้ฟังถึงที่มาของอาณาจักรแห่งนี้
คุณลูกไม้ อนุวัตเมธี และ คุณซีน - ดุสิตา อนุวัติเมธี
คุณลูกไม้ อนุวัตเมธี กรรมการผู้จัดการร้าน Scene Bangkok ผู้พี่เล่าให้ฟังถึงความหลงใหลในเบเกอรี่ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ว่า ...สมัยเด็ก คุณแม่เคยซื้อทัวร์พาไปฝรั่งเศส น้องซีนยังตัวเล็กๆ เราแอบหนีทัวร์ไปเดินเล่นกินขนมจนเจอเลม่อนทาร์ตชิ้นหนึ่ง รู้สึกว่าขนมอะไรไม่เคยทานมาก่อน รู้สึกประทับใจตั้งแต่นั้น ไม้ชอบทำอาหารอยู่แล้ว กลับมาจึงลองทำ ถือเป็นจุดเริ่มต้น
" ไม้..รักในการทำอาหารเพราะตั้งแต่เด็ก คุณแม่บอกว่าเราชอบกินตลอด ก็ฝังใจมาตลอดว่าอยากกินขนมแบบนั้นและอยากทำให้ได้ กลับมาไทย หาขนมรสชาติที่เคยกินไม่มี แต่เราอยากกินขนมรสชาตินี้ "
สมัยก่อนอินเตอร์เน็ตยังไม่มี ความรู้ที่ได้จึงเกิดจากการเปิดตำราอาหาร ลองผิดลองถูก เรื่อยมา รวมถึงการตระเวนเรียนจากเชฟต่างๆ ที่ผ่านการการันตีด้วยรางวัลความอร่อย
“.....เริ่มจากเปิดหนังสืออ่าน ตอนนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ต ทดลองทำ ทำเสีย ทำทิ้ง เริ่มศึกษาและยิ่งศึกษามาก ๆ ตอนนั้นไม่มีโรงเรียนสอนทำอาหารที่ใหญ่อย่างในปัจจุบัน ไปเรียนจากเชฟต่างๆ ที่ได้รับรางวัล โชคดีเราได้ภาษา ก็บอกกับแม่ว่า เราชอบด้านนี้ ”
คุณซีน - ดุสิตา อนุวัติเมธี ผู้น้องที่ผันตัวเองจากทันตแพทย์โดดลงมาช่วยพี่สาวบริหารงานเต็มตัว กล่าวเสริมว่า แม่ให้การสนับสนุน อยากทำอะไรให้ทำ ตามใจให้ทำเต็มที่ คุณพ่อก็ตามใจ ตอนนั้นซีนจะได้ทานอาหารที่พี่ไม้ทำตั้งแต่แข็งมากจนอร่อย (หัวเราะ)
ด้วยความรักที่พร้อมจะเรียนรู้ และก้าวไปหาความฝันที่ตั้งใจ คุณลูกไม้เปิดร้านในขณะยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
“ .. รู้สึกอินกับการทำอาหารมาก เรียนมาเรื่อย ๆ รู้สึกว่า ตื่นมามีความสุขกับการทำขนม เรียกว่าเป็นจิตวิญญาณก็ว่าได้ จนตัดสินใจเปิดร้านตอนนั้นขอยืมเงินคุณพ่อ เปิดร้านชื่อ Tokyo Dessert อยู่แถวพุทธมณฑลสาย 2 เป็นร้านเล็กๆ ตอนนั้นเรียนอยู่ที่ม.มหิดล ด้วยและก็ใกล้บ้าน
.... คือจะถามตัวเองตลอดว่า เราอยากเป็นอะไร อยากเป็นเชฟหรืออยากเป็นแบบคุณพ่อที่เป็นนักธุรกิจ สรุปคือคิดว่าอยากเป็นนักธุรกิจเหมือนคุณพ่อตอนนั้นเรียนมหิดล จึงเรียนเพิ่มด้านบริหารธุรกิจ อยากเรียนรู้การทำตลาด ก่อนเปิดร้าน ไม้ไปเจอ “อากิบะ” เชฟญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว เป็นคนจุดประกาย แกถามว่าอยากเรียนทำขนมจริงๆ หรือเปล่า มันไม่ได้สวยงามเหมือนกับที่คุณเรียนมานะ แต่เพราะอยากเรียนทำขนมจริงๆ ก็ไปร้านเขา ตอนนั้นเรียนที่มหิดลซึ่งอยู่ศาลายา ต้องขับรถตั้งแต่ตีห้าเพื่อเข้าไปเรียนกับอากิบะ แถวสุขุมวิท ไปเรียนกับเขา ทำตั้งแต่เช็ดพื้น ในช่วงแรกเตรียมแป้ง ร่อนแป้งอย่างเดียว จนตอนหลังได้เริ่มทำขนม
ผ่านไปนาน จนวันหนึ่ง ... ไม้บอกกับ อากิบะว่า ขอเปิดร้านญี่ปุ่นที่พุทธมณฑลสายสอง เปิดร้านของเราเอง ทำเอง ทุกอย่าง ตอนเช้าเปิดร้าน บ่ายไปเรียน ตอนเย็นปิดร้าน ทำขนม ไป เปิดสี่ปีทำแบบนั้นตลอด ทำทุกอย่างจากใจ เลยทำออกมาได้ดี ลูกค้าก็ตอบรับดีมาก ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีสื่ออะไรมากมายเหมือนกับสมัยนี้ ... รู้สึกว่ามีความสุข นอนวันละสองชั่วโมงแต่เราสดชื่นตลอดเวลา”
....จากมีหน้าร้านเล็กๆ ย่านพุทธมณฑล ชื่อเสียงความอร่อยเลื่องลือจนทางโมเดิร์นเทรดระดับบิ๊กติดต่อมา ให้ทำขนมเป็น OEM ส่งสู่ตลาด ถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจในแบบโรงงานผลิตเบเกอรี่ส่งตามร้านชั้นนำต่างๆ ทำอยู่ 6 ปี และปิดกิจการร้าน Tokyo Dessert หันมาจับ OEM โดยเฉพาะ แต่เพราะความเป็นคนชอบครีเอทงานที่มีอยู่ในตัวของทั้งสองคน ทำให้เริ่มมองหาแนวทางปลดปล่อยงานครีเอทผ่านเบเกอรี่ที่หลงใหล การเปิดหน้าร้านจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
คุณลูกไม้ ผู้พี่ เล่าต่อว่า ... แอบเปิดร้าน ที่บอกว่าแอบเพราะพ่อจะบอกเสมอว่า ต้องทำช้าๆ ค่อยๆ ทำไป อย่าทำอะไรทีละสองอย่าง ถ้าทำไม่ไหวทุกอย่างจะพังไปหมด แต่ด้วยความที่ passion เราแรงมากก็คุยกันกับแม่และน้อง แอบเปิดร้าน Seen Bangkok พุทธมณฑลสายสอง ร้านเล็กๆ ความตั้งใจคือ อยากปล่อยของ (หัวเราะ) และที่ใช้ชื่อ seen เพราะเรารักน้องมาก แม่สอนให้เราดูแลน้อง ปกป้องน้องมาตลอด จึงใช้เป็นชื่อร้านคะ เปิดร้านขึ้นมา ก็รู้สึกว่าเค้กที่มีอยู่ในไทยสวยมากจริงๆ แต่ไม่อร่อย เราจึงใช้คำว่าซีน แปลว่า สวยด้วย รสชาติและรูปร่างดูดีด้วย อีกอย่างคือ เข้ากับชื่อของน้องสาว ซีน เหมาะกับที่คุณแม่ทำสวนเองด้วยจึงเหมาะกับชื่อนี้
และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากที่เปิดร้าน ไม่ได้ทำการตลาด แต่ลูกค้าบอกต่อ และเข้ามาใช้บริการต่อเนื่องและรับรู้ว่า เราทำขนมทุกชิ้นด้วยใจและใช้วัสดุที่ดี ไม่น่าเชื่อว่า ร้านซีนที่อยากเปิดเล็กๆ ก็ใหญ่ไปเอง คุณพ่อมาเจอว่าเปิดร้านนี้เพราะไปออกรายการทีวี พ่อดู พ่อก็บอกว่าร้านของลื้อใช่มั๊ย เขารับรู้ตอนที่เราประสบความสำเร็จแล้ว เขาก็ภูมิใจ”
ดูจะเป็นการสวนกระแสต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่เจอสถานการณ์โควิด – 19 ต่างเจ็บตัวไปตามๆกัน แต่สำหรับธุรกิจของสองสาวกลับโตต่อเนื่อง
“... ตอนเกิดโควิด คิดว่ายอดจะต้องตก แต่กลับทำให้ยอดขายโตเกือบเท่าตัว จากที่ไม่เคยมีลูกค้าออนไลน์ ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ในออนไลน์สี่หมื่นกว่าคน ที่คอยซื้อขนมของเราอยู่ตลอดเวลา ทำให้ถึงจุดหนึ่งที่ต้องมาเปิด Scene Bangkok แห่งนี้ ความฝันของไม้คือ อยากเข้าตลาดหลักทรัพย์ เราเป็นคนคิดใหญ่และเป้าสูง น้องสาวเป็นหมอฟันไม่ได้เกี่ยวเลย ทำอาหารไม่เป็น แต่น้องช่วยส่วนอื่นเช่น น้องชอบงานด้านศิลปะ จะสเก็ตซ์ภาพเบเกอรี่จากความคิด เพื่อให้เชฟทำตามที่ออกแบบไว้ ”
อาณาจักร Scene Bangkok บนเนื้อที่ 5 ไร่ ผ่านการตรึกตรองหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลงทุนเปิดอาณาจักรความอร่อยแห่งนี้ ด้วยงบประมาณ 80 ล้านบาท
คุณซีน – ดุสิตา เสริม.... ร้านที่พุทธมณฑลสายสอง บางวันแค่บ่ายของก็หมดแล้ว ไม่พอ ที่เก็บไม่พอ เราอยากขยายตัวด้วยจึงหาทำเล ใกล้บ้าน จนมาเจอที่นี่ซึ่งเดินทางสะดวก ตั้งอยู่ริมถนนพื้นที่ 5 ไร่ มีที่จอดรถ มีครัวใหญ่ จะมีหน้าร้าน พอเราทำสเกลใหญ่เก็บเอาปัญหาทั้งหมดที่เจอมาปรับ ลูกค้าอยากได้อาหารเช้า เครื่องดื่ม ร้านนี้จึงครบวงจรทั้งหมด
... และสองก็คือ อยากให้ scene Bangkok เข้าไปอยู่ในโมเมนต์ที่มีความสุขของทุกคน อยากไปอยู่ในทุกโมเมนต์ของลูกค้า ที่ผ่านมาเราเห็นลูกค้าในทุกรูปแบบ ทั้งสุขทั้งทุกข์ บางคนอกหักมานั่งปรับทุกข์ร้องไห้อยู่ในร้านกับเพื่อน บางคนมาจีบกันที่ร้านปัจจุบันแต่งงานกันไปแล้ว เลยรู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่มีค่า ....เราอยากอยู่ในทุกช่วงเวลาของทุกคน
ก้าวต่อไปของธุรกิจความอร่อยจากร้าน Scene Bangkok อีกไม่นานมาตรฐานความอร่อยระดับพรีเมี่ยมจะกระจายไปตามจุดต่างๆในกรุงเทพมหานคร ในรูปแบบร้านไซส์ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 4 สาขาและ Shop ขนาดเล็กอีกไม่ต่ำกว่า 50 ช็อป สำหรับครัวขนาดใหญ่ของ Scene Bangkok ปัจจุบันพร้อมแล้วในกำลังผลิตสำหรับการรองรับการเติบโตของธุรกิจเบเกอรี่ขนาดใหญ่ได้ไม่น้อยกว่า 20 สาขา โดยใช้ๅสถานที่แห่งนี้เป็นฐานการผลิตออกสู่ตลาดเพื่อประสิทธิภาพของการควบคุมคุณภาพ
... ที่นี่จึงไม่ใช่เพียงร้านอาหาร... ไม่ใช่ โรงงานทำขนม แต่ที่นี่คือสถานที่ที่บ่งบอกถึงความฝัน แรงบันดาลใจที่ทำให้ใครหลายคนที่มีฝันและพร้อมจะทะยานไปสู่ความสำเร็จด้วยความตั้งใจ..ความรักและ...ความเพียร
" ไม้..รักในการทำอาหารเพราะตั้งแต่เด็ก คุณแม่บอกว่าเราชอบกินตลอด ก็ฝังใจมาตลอดว่าอยากกินขนมแบบนั้นและอยากทำให้ได้ กลับมาไทย หาขนมรสชาติที่เคยกินไม่มี แต่เราอยากกินขนมรสชาตินี้ "
สมัยก่อนอินเตอร์เน็ตยังไม่มี ความรู้ที่ได้จึงเกิดจากการเปิดตำราอาหาร ลองผิดลองถูก เรื่อยมา รวมถึงการตระเวนเรียนจากเชฟต่างๆ ที่ผ่านการการันตีด้วยรางวัลความอร่อย
“.....เริ่มจากเปิดหนังสืออ่าน ตอนนั้นไม่มีอินเตอร์เน็ต ทดลองทำ ทำเสีย ทำทิ้ง เริ่มศึกษาและยิ่งศึกษามาก ๆ ตอนนั้นไม่มีโรงเรียนสอนทำอาหารที่ใหญ่อย่างในปัจจุบัน ไปเรียนจากเชฟต่างๆ ที่ได้รับรางวัล โชคดีเราได้ภาษา ก็บอกกับแม่ว่า เราชอบด้านนี้ ”
คุณซีน - ดุสิตา อนุวัติเมธี ผู้น้องที่ผันตัวเองจากทันตแพทย์โดดลงมาช่วยพี่สาวบริหารงานเต็มตัว กล่าวเสริมว่า แม่ให้การสนับสนุน อยากทำอะไรให้ทำ ตามใจให้ทำเต็มที่ คุณพ่อก็ตามใจ ตอนนั้นซีนจะได้ทานอาหารที่พี่ไม้ทำตั้งแต่แข็งมากจนอร่อย (หัวเราะ)
ด้วยความรักที่พร้อมจะเรียนรู้ และก้าวไปหาความฝันที่ตั้งใจ คุณลูกไม้เปิดร้านในขณะยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
“ .. รู้สึกอินกับการทำอาหารมาก เรียนมาเรื่อย ๆ รู้สึกว่า ตื่นมามีความสุขกับการทำขนม เรียกว่าเป็นจิตวิญญาณก็ว่าได้ จนตัดสินใจเปิดร้านตอนนั้นขอยืมเงินคุณพ่อ เปิดร้านชื่อ Tokyo Dessert อยู่แถวพุทธมณฑลสาย 2 เป็นร้านเล็กๆ ตอนนั้นเรียนอยู่ที่ม.มหิดล ด้วยและก็ใกล้บ้าน
.... คือจะถามตัวเองตลอดว่า เราอยากเป็นอะไร อยากเป็นเชฟหรืออยากเป็นแบบคุณพ่อที่เป็นนักธุรกิจ สรุปคือคิดว่าอยากเป็นนักธุรกิจเหมือนคุณพ่อตอนนั้นเรียนมหิดล จึงเรียนเพิ่มด้านบริหารธุรกิจ อยากเรียนรู้การทำตลาด ก่อนเปิดร้าน ไม้ไปเจอ “อากิบะ” เชฟญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว เป็นคนจุดประกาย แกถามว่าอยากเรียนทำขนมจริงๆ หรือเปล่า มันไม่ได้สวยงามเหมือนกับที่คุณเรียนมานะ แต่เพราะอยากเรียนทำขนมจริงๆ ก็ไปร้านเขา ตอนนั้นเรียนที่มหิดลซึ่งอยู่ศาลายา ต้องขับรถตั้งแต่ตีห้าเพื่อเข้าไปเรียนกับอากิบะ แถวสุขุมวิท ไปเรียนกับเขา ทำตั้งแต่เช็ดพื้น ในช่วงแรกเตรียมแป้ง ร่อนแป้งอย่างเดียว จนตอนหลังได้เริ่มทำขนม
ผ่านไปนาน จนวันหนึ่ง ... ไม้บอกกับ อากิบะว่า ขอเปิดร้านญี่ปุ่นที่พุทธมณฑลสายสอง เปิดร้านของเราเอง ทำเอง ทุกอย่าง ตอนเช้าเปิดร้าน บ่ายไปเรียน ตอนเย็นปิดร้าน ทำขนม ไป เปิดสี่ปีทำแบบนั้นตลอด ทำทุกอย่างจากใจ เลยทำออกมาได้ดี ลูกค้าก็ตอบรับดีมาก ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีสื่ออะไรมากมายเหมือนกับสมัยนี้ ... รู้สึกว่ามีความสุข นอนวันละสองชั่วโมงแต่เราสดชื่นตลอดเวลา”
....จากมีหน้าร้านเล็กๆ ย่านพุทธมณฑล ชื่อเสียงความอร่อยเลื่องลือจนทางโมเดิร์นเทรดระดับบิ๊กติดต่อมา ให้ทำขนมเป็น OEM ส่งสู่ตลาด ถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจในแบบโรงงานผลิตเบเกอรี่ส่งตามร้านชั้นนำต่างๆ ทำอยู่ 6 ปี และปิดกิจการร้าน Tokyo Dessert หันมาจับ OEM โดยเฉพาะ แต่เพราะความเป็นคนชอบครีเอทงานที่มีอยู่ในตัวของทั้งสองคน ทำให้เริ่มมองหาแนวทางปลดปล่อยงานครีเอทผ่านเบเกอรี่ที่หลงใหล การเปิดหน้าร้านจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
คุณลูกไม้ ผู้พี่ เล่าต่อว่า ... แอบเปิดร้าน ที่บอกว่าแอบเพราะพ่อจะบอกเสมอว่า ต้องทำช้าๆ ค่อยๆ ทำไป อย่าทำอะไรทีละสองอย่าง ถ้าทำไม่ไหวทุกอย่างจะพังไปหมด แต่ด้วยความที่ passion เราแรงมากก็คุยกันกับแม่และน้อง แอบเปิดร้าน Seen Bangkok พุทธมณฑลสายสอง ร้านเล็กๆ ความตั้งใจคือ อยากปล่อยของ (หัวเราะ) และที่ใช้ชื่อ seen เพราะเรารักน้องมาก แม่สอนให้เราดูแลน้อง ปกป้องน้องมาตลอด จึงใช้เป็นชื่อร้านคะ เปิดร้านขึ้นมา ก็รู้สึกว่าเค้กที่มีอยู่ในไทยสวยมากจริงๆ แต่ไม่อร่อย เราจึงใช้คำว่าซีน แปลว่า สวยด้วย รสชาติและรูปร่างดูดีด้วย อีกอย่างคือ เข้ากับชื่อของน้องสาว ซีน เหมาะกับที่คุณแม่ทำสวนเองด้วยจึงเหมาะกับชื่อนี้
และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากที่เปิดร้าน ไม่ได้ทำการตลาด แต่ลูกค้าบอกต่อ และเข้ามาใช้บริการต่อเนื่องและรับรู้ว่า เราทำขนมทุกชิ้นด้วยใจและใช้วัสดุที่ดี ไม่น่าเชื่อว่า ร้านซีนที่อยากเปิดเล็กๆ ก็ใหญ่ไปเอง คุณพ่อมาเจอว่าเปิดร้านนี้เพราะไปออกรายการทีวี พ่อดู พ่อก็บอกว่าร้านของลื้อใช่มั๊ย เขารับรู้ตอนที่เราประสบความสำเร็จแล้ว เขาก็ภูมิใจ”
“... ตอนเกิดโควิด คิดว่ายอดจะต้องตก แต่กลับทำให้ยอดขายโตเกือบเท่าตัว จากที่ไม่เคยมีลูกค้าออนไลน์ ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ในออนไลน์สี่หมื่นกว่าคน ที่คอยซื้อขนมของเราอยู่ตลอดเวลา ทำให้ถึงจุดหนึ่งที่ต้องมาเปิด Scene Bangkok แห่งนี้ ความฝันของไม้คือ อยากเข้าตลาดหลักทรัพย์ เราเป็นคนคิดใหญ่และเป้าสูง น้องสาวเป็นหมอฟันไม่ได้เกี่ยวเลย ทำอาหารไม่เป็น แต่น้องช่วยส่วนอื่นเช่น น้องชอบงานด้านศิลปะ จะสเก็ตซ์ภาพเบเกอรี่จากความคิด เพื่อให้เชฟทำตามที่ออกแบบไว้ ”
อาณาจักร Scene Bangkok บนเนื้อที่ 5 ไร่ ผ่านการตรึกตรองหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลงทุนเปิดอาณาจักรความอร่อยแห่งนี้ ด้วยงบประมาณ 80 ล้านบาท
คุณซีน – ดุสิตา เสริม.... ร้านที่พุทธมณฑลสายสอง บางวันแค่บ่ายของก็หมดแล้ว ไม่พอ ที่เก็บไม่พอ เราอยากขยายตัวด้วยจึงหาทำเล ใกล้บ้าน จนมาเจอที่นี่ซึ่งเดินทางสะดวก ตั้งอยู่ริมถนนพื้นที่ 5 ไร่ มีที่จอดรถ มีครัวใหญ่ จะมีหน้าร้าน พอเราทำสเกลใหญ่เก็บเอาปัญหาทั้งหมดที่เจอมาปรับ ลูกค้าอยากได้อาหารเช้า เครื่องดื่ม ร้านนี้จึงครบวงจรทั้งหมด
" อยากให้ทุกคนที่มาที่นี่ มาแล้วรู้สึกผ่อนคลาย
จากคำว่า seen จากร้านเดิมเปลี่ยนให้เป็น scene เป็นเหมือนฉากใหม่ของชีวิตเราที่ใหญ่ขึ้น "
... และสองก็คือ อยากให้ scene Bangkok เข้าไปอยู่ในโมเมนต์ที่มีความสุขของทุกคน อยากไปอยู่ในทุกโมเมนต์ของลูกค้า ที่ผ่านมาเราเห็นลูกค้าในทุกรูปแบบ ทั้งสุขทั้งทุกข์ บางคนอกหักมานั่งปรับทุกข์ร้องไห้อยู่ในร้านกับเพื่อน บางคนมาจีบกันที่ร้านปัจจุบันแต่งงานกันไปแล้ว เลยรู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่มีค่า ....เราอยากอยู่ในทุกช่วงเวลาของทุกคน
ก้าวต่อไปของธุรกิจความอร่อยจากร้าน Scene Bangkok อีกไม่นานมาตรฐานความอร่อยระดับพรีเมี่ยมจะกระจายไปตามจุดต่างๆในกรุงเทพมหานคร ในรูปแบบร้านไซส์ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 4 สาขาและ Shop ขนาดเล็กอีกไม่ต่ำกว่า 50 ช็อป สำหรับครัวขนาดใหญ่ของ Scene Bangkok ปัจจุบันพร้อมแล้วในกำลังผลิตสำหรับการรองรับการเติบโตของธุรกิจเบเกอรี่ขนาดใหญ่ได้ไม่น้อยกว่า 20 สาขา โดยใช้ๅสถานที่แห่งนี้เป็นฐานการผลิตออกสู่ตลาดเพื่อประสิทธิภาพของการควบคุมคุณภาพ
... ที่นี่จึงไม่ใช่เพียงร้านอาหาร... ไม่ใช่ โรงงานทำขนม แต่ที่นี่คือสถานที่ที่บ่งบอกถึงความฝัน แรงบันดาลใจที่ทำให้ใครหลายคนที่มีฝันและพร้อมจะทะยานไปสู่ความสำเร็จด้วยความตั้งใจ..ความรักและ...ความเพียร
สถานที่ตั้ง Scene Bangkok
ถนนพรานนก- พุทธมณฑล ตัดใหม่ สามารถเดินทางจากสะพานสาทร หรือทาง โรงพยาบาลศิริราช ได้สะดวก
เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.00 – 23.00 น. (แต่ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเวลาของการเริ่มเปิดบริการ ยังคงเปิดให้บริการถึง 21.00 น. เท่านั้น)
ติดต่อ Scene Bangkok โทร 095 992 9715
ถนนพรานนก- พุทธมณฑล ตัดใหม่ สามารถเดินทางจากสะพานสาทร หรือทาง โรงพยาบาลศิริราช ได้สะดวก
เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.00 – 23.00 น. (แต่ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเวลาของการเริ่มเปิดบริการ ยังคงเปิดให้บริการถึง 21.00 น. เท่านั้น)
ติดต่อ Scene Bangkok โทร 095 992 9715
#SceneBangkokPâtisserie&Brasserie #SceneBangkok #คาเฟ่พรานนกพุทธมณฑล
No comments:
Post a Comment