ธุรกิจงานแสดงสินค้าฟื้นหลังกลับมาเปิดประเทศเต็มตัว ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้จัดงานแสดงสินค้าเบอร์หนึ่งระดับโลก มั่นใจไทยเดินหน้าจัด 16 งานแสดงสินค้าในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญตลอด 2566 ทั้งรุกจัดเพิ่มงานใหม่ Plastic & Rubber Thailand และดึงงานใหญ่ระดับโลก Jewellery & Gem ASEAN Bangkok มาจัดที่ไทย วางเป้ารายได้ปีนี้ 900 ล้านบาท ชี้จุดแข็งประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าของอาเซียนอย่างแท้จริง
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เผยถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจงานแสดงสินค้าของไทยปี 2566 ว่า หลังเปิดประเทศอย่างเต็มตัวทำให้นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา (2565) ทำให้ธุรกิจงานแสดงสินค้าเริ่มกลับมาจัดได้อย่างเป็นปกติขึ้น โดยในช่วงปี 2565 ที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย เรามีการจัดงานทั้งหมด 14 งาน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ กลับมาเติบโตได้อีกครั้งอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการดึงงานใหญ่ระดับโลกมาจัดที่ไทยเป็นครั้งแรกและบรรจุเข้าเป็นงานที่จัดขึ้นประจำทุกปีของบริษัทฯ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่พอร์ตการจัดงาน อาทิ งาน Cosmoprof CBE ASEAN งานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงาม ที่จัดแสดงมาแล้วทั่วโลกทั้งอิตาลี ฮ่องกง อินเดีย และสหรัฐอเมริกา หรือ งาน Vitafoods Asia 2022 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินระดับเอเชียที่ครอบคลุมทุกมิติของการผลิตสินค้าเสริมอาหาร
นอกจากนั้น ยังมีขยายการจัดงานออกไปในส่วนภูมิภาค อาทิ งาน MIRA (Maintenance Industrial Robotic and Automation Event) งานแสดงเทคโนโลยีด้านการบำรุงรักษาหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ โซลูชั่นอุตสาหกรรมจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมกับงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรม เพื่อเจาะกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมภายในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมที่ใหญ่ครอบคลุม 3 จังหวัดเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตมากที่สุดของไทยอีกด้วย
สำหรับปี 2566 นั้น อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย มีการเดินหน้าเตรียมพร้อมจัดงานแสดงสินค้าไว้มากถึง 16 งาน โดยทั้งหมดเป็นงานแสดงสินค้าสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (Trade Exhibition) กลุ่มเป้าหมายคือนักธุรกิจและภาครัฐ (B2B และ G2G) ทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งทุกงานล้วนมีมูลค่าสูงทั้งในด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ที่ช่วยสร้างมูลค่า รายได้และความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
โดยงานที่เป็นไฮไลท์สำคัญสำหรับปี 2566 นั้น คือ การดึงเอางานใหญ่ระดับโลกของอุตสาหกรรมเครื่องประดับอย่างงาน Jewellery and Gem ASEAN Bangkok งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับแห่งภูมิภาคอาเซียนมาจัดขึ้นที่ประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เอเชีย ผู้จัดงานอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีการเพิ่มการจัดงานใหม่อย่างงาน Plastic & Rubber Thailand งานแสดงเทคโนโลยีการผลิตสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยางแบบครบวงจร โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเล็งเห็นความสำคัญของการใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่า พร้อมทั้งแนวคิดการผลิตพลาสติกด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน สู่วิถีแห่งความยั่งยืน ที่สามารถเติมเต็มโอกาสและเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและวางแผนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
สรุปรวม 16 งาน แบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญดังนี้
- กลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรและการผลิต: ProPak Asia, Intermach, Subcon Thailand, Plastic & Rubber Thailand, MIRA and Subcon EEC, และ Pumps and Valves Asia
- กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อม: ASEAN Sustainable Energy Week, Electric Vehicle Asia, Thai Water Expo และ ASEAN Paper Bangkok
- กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ: Food & Hospitality Thailand และ Food Ingredients Asia
- กลุ่มอุตสาหกรรมยาและอาหารเสริม: CPHI South East Asia และ และ Vitafoods Asia
- กลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ: Jewellery & Gem ASEAN Bangkok
- กลุ่มอุตสาหกรรมความงาม: Cosmoprof CBE Asean Bangkok
จากกำหนดการจัดงานทั้ง 16 งานดังกล่าว ประกอบกับปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ทำให้ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย วางเป้ารายได้รวมปี 2566 ไว้ที่ 900 ล้านบาท ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องคำนึงถึง คือ สถานการณ์โควิดที่ยังไม่หมดไป อัตราเงินเฟ้อ สงครามรัสเซีย-ยูเครน และมาตรการการค้าของแต่ละประเทศ
ด้านการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฮับของอุตสาหกรรมการจัดงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาคนั้น อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะประเทศไทยนับว่ามีศักยภาพและความพร้อมอย่างสมบูรณ์ในทุกองค์ประกอบของธุรกิจงานแสดงสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสถานที่การจัดงานที่ดีเป็นอันดับต้นของเอเชีย ความสะดวกของที่พัก การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว รวมไปถึงความพึงพอใจต่อการบริการและความมีน้ำใจของคนไทย องค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อการเป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติของภูมิภาคอย่างแท้จริง
No comments:
Post a Comment