ชาร์ปเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่และภาคธุรกิจในอาเซียน นำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่สำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ B2B ภายใต้แนวคิด “Simply Better Lifestyle” - All Miles

Breaking

Home Top Ad

Wednesday, July 17, 2024

ชาร์ปเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่และภาคธุรกิจในอาเซียน นำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่สำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ B2B ภายใต้แนวคิด “Simply Better Lifestyle”


กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2567 - ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีประชากรจำนวน 671.7 ล้านคน ถือเป็นตลาดสำคัญที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับ ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น (Sharp) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคและโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจ โดยล่าสุดได้จัดงานใหญ่ระดับภูมิภาค “SHARP Sync-Up 2024” ขึ้นที่ประเทศไทย เพื่อเผยถึงนโยบายในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งนำเสนอเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี สมาร์ทโฮมโซลูชัน “Cocoro Home” และนวัตกรรม “AIoT” ใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคนี้


โทโมกิ ทามุระ
รองประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศ และผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจไฟฟ้าและโซลูชันอัจฉริยะ บริษัท ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ชาร์ปมุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตของภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจในภูมิภาคนี้มาอย่างยาวนาน จึงทำให้เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทและการสนับสนุนจากบริษัทในเครือและพาร์ทเนอร์ของเรา ส่งผลให้แบรนด์ชาร์ปยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดอาเซียน นอกจากนี้ การได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของอาเซียนในกลุ่มตู้เย็นและไมโครเวฟยังถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความไว้วางใจของผู้บริโภคในความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมของชาร์ปอีกด้วย เราจะยังคงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตและการทำงานรูปแบบใหม่ของผู้คนในอาเซียนอย่างไม่หยุดยั้ง ภายใต้แนวคิด Simply Better Lifestyle”


ภายในงาน “SHARP Sync-Up 2024” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชาร์ปได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ เพื่อตอบรับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คนยุคใหม่ในภูมิภาคนี้ที่ให้ความสนใจเรื่องความอย่างยั่งยืนกันมากขึ้น โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมที่สรรค์สร้างความสะดวกสบาย ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของแต่ละบุคคล และเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัวได้อย่างลงตัว


ในครั้งนี้มีตัวแทนจากบริษัทในเครือของชาร์ปและพันธมิตรทางธุรกิจจากทั่วภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลกเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยมีการจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ใน 5 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ เทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home (เทคโนโลยีการทำความสะอาด โซลูชันอากาศบริสุทธิ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว) เทคโนโลยีพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ (New Energy Concept) ผลิตภัณฑ์ความบันเทิงอัจฉริยะ (Smart Entertainment) นวัตกรรมสำหรับสมาร์ทไลฟ์สไตล์ (Smart Lifestyle) และโซลูชันสำหรับสมาร์ทออฟฟิศ (Smart Office)


การออกแบบสำหรับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนยุคใหม่และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวสำหรับคนรักสุขภาพ

เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่มักให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบที่โดดเด่นและเทคโนโลยีล้ำสมัย ชาร์ปจึงได้เปิดตัวเตาอบไมโครเวฟแบบลิ้นชักที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร โดยมีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomic Design) เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในซีกโลกตะวันตก การันตีด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านเครื่องในประเทศสหรัฐอเมริกา จากผลตอบรับที่ดีนี้ ชาร์ปจึงเตรียมเปิดตัวเตาอบไมโครเวฟนี้ในตลาดอาเซียน โดยเตาอบไมโครเวฟแบบลิ้นชักของชาร์ปถูกออกแบบมาให้ผสานรวมเข้ากับห้องครัวสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัว และมีระบบการปรุงอาหารด้วยเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัยแต่ใช้งานง่าย สามารถปรับเวลาในการปรุงอาหารและความร้อนได้หลายระดับ ให้ทุกคนสามารถทำเมนูเพื่อสุขภาพด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน นอกจากนี้ ฝาประตูยังมาพร้อมกับระบบ Easy Wave Open ที่ใช้เซ็นเซอร์ในการตรวจจับความเคลื่อนไหว ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารหกเลอะเทอะ พื้นที่ด้านในกว้างขวาง เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ และระดับความสูงที่เหมาะสมกับสรีระ จึงเหมาะกับผู้ใช้ทุกคน


อีกหนึ่งไฮไลท์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านคือ เครื่องดูดฝุ่นรุ่น Ractive Air SR-9 ที่เงียบและทรงพลัง และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.7 กิโลกรัม โดยชาร์ปได้ออกแบบเครื่องดูดฝุ่นนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีพลังดูดสูง แต่ระดับความดังของมอเตอร์ขณะใช้งานอยู่ที่เพียง 52 เดซิเบล และ 60 เดซิเบลในโหมดความเร็วสูง (Strong Mode) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Japanese Industrial Standards) หรือ JIS ในขณะที่เครื่องดูดฝุ่นของแบรนด์อื่นๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาดมีระดับความดังขั้นต่ำอยู่ที่ 75 - 82 เดซิเบล ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์การทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูงและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่ดีต่อสุขภาพด้วยเสียงรบกวนที่น้อยที่สุด

#SharpThinkPossibilities

No comments:

Post a Comment

Pages