ครั้งนี้พวกเราสื่อมวลชน ได้รับเชิญจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเกาะสมุย เปิดประสบการณ์การเดินทางไปเกาะเต่า ด้วยรถโดยสารปรับอากาศVIP ของบริษัทเรือเร็วลมพระยา จำกัด บริษัทตั้งอยู่ที่ ถนนรามบุตรี บางลำภู พวกเราขึ้นรถที่นั่น รถออกจากกรุงเทพฯ เวลาสามทุ่ม แต่ต้องไปถึงที่บริษัทก่อนเวลา เพื่อcheck in ออกตั๋วโดยสาร ติดTAG สีที่กระเป๋าเดินทาง เพื่อแยกนักท่องเที่ยว เดินทางไปยังเกาะนางยวน เกาะเต่า เกาะพะงัน และเกาะสมุย ตามลำดับ 90% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ " คุณเวศน์ " ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย ของบริษัท เป็นผู้ดูแลพวกเราตลอดการเดินทางไปยังเกาะเต่า พร้อม...มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือทุ่งมะขามน้อย จ.ชุมพร
สามทุ่มกว่านิดหน่อย ถือได้ว่าตรงเวลานะ รถโดยสารปรับอากาศหลายคัน ของบริษัท มีทั้งธรรมดา และVIP มาจอดรอนักท่องเที่ยวริมถนนขึ้นรถ เราขอแนะนำให้นั่งVIP ดีกว่า จะได้นั่งยืดขาได้เต็มที่ ไม่อึดอัด เมื่อขึ้นไปบนรถVIP เบาะใหญ่ นั่งสบาย ปรับเอนนอนกันไปได้ยาวๆ พนักงานขับรถ ขับดีมาก ประมาณตีสอง จอดแวะร้านอาหารที่ทับสะแก ให้พวกเราได้ลงไปยืดเส้นยืดสาย เข้าห้องน้ำ ไม่มีบริการคูปองอาหาร นักท่องเที่ยวจ่ายกันเอง ทำภารกิจกันเรียบร้อย ขึ้นรถต่อไป จุดหมายปลายทางท่าเรือทุ่งมะขามน้อย จ.ชุมพร
เวลาตีห้าพวกเราก็ถึงท่าเรือ บรรยากาศยังมืดตึดตื๋อ มีเพียงเแสงนิออน ตามจุดนั่งรอต่างๆ รอเวลาขึ้นเรือ เวลาเจ็ดโมง ช่วงเวลานี้ได้ทำภารกิจส่วนตัวกันสบายๆ " สวัสดีค่ะ บริษัทเรือเร็วลมพระยา จำกัด ขอต้อนรับทุกท่าน มุ่งสู่เกาะเต่า เกาะพะงัน และเกาะสมุยตามลำดับ ..... " เสียงประกาศเรียก ได้เวลาขึ้นเรือแล้วจร้าาา เวลานี้ท้องฟ้าเริ่มสว่าง เป็นการเดินทางไปยังเกาะเต่าครั้งแรกของเรา แอบตื่นเต้นเล็กน้อย
เรียกขึ้นเรือตามลำดับ เกาะเต่า เกาะพะงัน และเกาะสมุย ด้วยเรือโดยสารคาตามาลันขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวเต็มลำ เหมือนทุกครั้ง พร้อมออกเดินทางไปยังเกาะเต่า ท้องฟ้าไม่ค่อยแจ่มใส เป็นช่วงเวลามีฝนตก
เรือโดยสารลำนี้มี3ชั้น แล้วแต่จะเลือกนั่งแบบไหน มีทั้งดาดฟ้า ในร่ม และในห้องปรับอากาศVIP พวกเราขอนั่งห้องปรับอากาศVIP ใช้เวลาในการเดินทาง 1ชั่วโมง 40 นาที คลื่นลมในทะเลไม่เยอะ นั่งไปสบายๆ หลับบ้าง ตื่นบ้าง ออกไปยืดเส้นยืดสายนอกห้อง ภายในเรือบ้าง ถ่ายรูปชิวๆกันไป
จุดแรกที่เรือเทียบท่า " เกาะนางยวน " เรายังไม่ลงสิ จุดหมายของเราคือเกาะเต่า เรามองจากบนเรือ เห็นนักท่องเที่ยวบางส่วนลงที่นี่ พร้อมพนักงานบนเรือขนกระเป๋านักท่องเที่ยว และอาหารสด-ผลไม้ต่างๆ ลงจากเรือ และรับนักท่องเที่ยวจากที่นี่ไปยังเกาะเต่า-พะงัน-สมุยตามลำดับ
จุดต่อไปผ่านไปประมาณ20นาที เราก็มาถึงท่าเรือแม่หาด " เกาะเต่า " แอบตื่นเต้นอีก ครั้งแรกอะ ถือกระเป๋าเดินทางลงจากเรือ ของใครของมัน บรรยากาศจอแจ นักท่องเที่ยวเยอะมาก รีสอร์ทต่างๆ มายืนรอถือป้าย รอรับนักท่องเที่ยวของตน รวมถึงของพวกเราด้วย " Koh Tao Hillside Resort เกาะเต่าฮิลล์ไซด์ รีสอร์ท "
รถให้บริการของทางรีสอร์ทต่างๆ บนเกาะเต่า จะเป็นรถกระบะมีหลังคานั่ง 2แถว ด้วยสภาพพื้นที่ เป็นที่ลาดเชิงเขา ขึ้นๆลงๆเขากันตลอด เกือบทุกเส้นทาง นั่งรถไม่นานเราก็ถึง " Koh Tao Hillside Resort " รีสอร์ท ตั้งอยู่ห่างจากหาดทรายรี 5 นาที และห่างจากท่าเรือแม่หาด 10 นาที หากเดินทางโดยรถยนต์
เวลาแรกที่มาถึงก็ทำให้พวกเราเสียว จนต้องร้องกรี๊ดดดดดดด กันลั่นรถ ด้วยสภาพพื้นที่รีสอร์ท จากถนนหลัก เลี้ยวเข้ารีสอร์ท ทางลงรถชันมากกกก กลัวจะเบรครถไม่อยู่ตกทะเลไป ประกอบกับเวลานี้ รีสอร์ทกำลังปรับปรุงห้องพักต่างๆ ก็จะมีอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆวางเรียงราย
แนะนำ ... ใครพักที่นี่ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเดินขึ้นเขาลงเขาหลายๆรอบในรีสอร์ท ที่พักตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชัน ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือเดินทางมาพร้อมเด็กเล็ก เนื่องจากมีบรรไดหลายแห่ง บางจุดลาดชัน
ผู้เข้าพักได้สัมผัสบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริงกับที่พักริมทะเลของเกาะเต่าอย่างใกล้ชิด ดื่มด่ำความสุขส่วนตัวที่ได้จากเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ภายในห้องพักมีเครื่องปรับอากาศ ห้องน้ำในตัว น้ำดื่ม กาต้มน้ำพร้อมชากาแฟ และระเบียงส่วนตัว มองวิวท้องทะเลอันแสนกว้างไกลสุดสายตาแบบพาโนรามาได้จากห้องพัก มีทิวทัศน์ชายหาด สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ห้องอาหาร และบริการฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ในบริเวณล็อบบี้ ให้บริการอาหารตำรับไทยแท้และอาหารนานาชาติหลากหลายรายการ มีบริการรถรีสอร์ทนำเที่ยวที่ต่างๆ มีบริการจัดกิจกรรมดำน้ำ และอื่นๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดต้อนรับ
Facebook: KohTao Hillside
ResortWebsite: www.hohtaohillsideresort.com
เบอร์ติดต่อ: 077-601822, 077-601823 และ 081-172-8896
ขอบอกเลยว่า จุดชมวิวด้านบนรีสอร์ทสวยมากๆ มองเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดบนเกาะเต่าจุดหนึ่ง ( วันที่พวกเรามา มีฝนตก ไม่เห็นพระอาทิตย์ตก )
และที่นี้ คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผอ.ททท.สำนักงานเกาะสมุย หรือพวกเราเรียกว่า " พี่เกด " พร้อม รองผอ.กิ๊ฟ และน้องเปิ้ลททท.สำนักงานเกาะสมุย รอต้อนรับพวกเราอยู่ " Welcome to Kho Tao " พี่เกดทักทายต้อนรับพวกเรา จากนั้นได้พูดคุยแนะนำตัวกัน แยกย้ายพักผ่อนกันตามห้องต่างๆ
ได้เวลาออกไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่ " บ้านทะเล รีสอร์ท " อยู่บนเขา อาหารหลักร้อย วิวหลักร้าน ลมพัดเย็นตลอดเวลา ไม่วุ่นวาย เหมาะกับมานั่งชิลมาก อาหารอร่อย รสชาติไม่จัดมาก มีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น การเรียนรู้เรื่องประดับจากเศษแก้วที่ผ่านการเจียระไนทะเล โยคะ และศาสตร์บำบัดต่าง ๆ ของชาวตะวันออก workshopต่างๆ
อิ่มแล้ว เราเดินทางต่อไปยัง " อ่าวโตนด " ชมความสวยงามของหาดที่ดีที่สุดในโลก ที่เว็บไซต์ World Beach Guide ได้จัดอันดับไว้ในปี 2023 (Top 100 beaches on Earth 2023 ) ถ่ายรูปชิลๆ กันสักพัก ไปต่อกันที่
" PLAS TAO " ที่นี่เราได้คุยกับ " คุณเม " ผู้ริเริ่ม เล่าให้เราฟังว่า " concept คือเราเก็บขยะจากเกาะเต่าขึ้นมา ทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วขายให้นักท่องเที่ยว มีการวางจุดรับขยะพลาสติก มีจุดหย่อนที่หน้าร้าน และรับซื้อพลาสติกจากชาวบ้านในราคาที่สูง เริ่มทำตอนช่วงโควิด คิดว่า..ทำอย่างไรถึงจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกบนเกาะเต่าได้ ได้สร้างมูลค่า และนักท่องเที่ยวได้ซื้อของที่ทำจากเกาะเต่า ช่วยกระจายรายได้ลงชุมชน ช่วยสร้างงานด้วย เป็นการนำขยะพลาสติกต่างๆมารีไซเคิล ต่อยอดจนเป็น ของใช้ต่างๆได้ "
ได้เวลามื้อเย็น วันนี้เรากินกันที่ร้าน " BAN'S Beach Restaurant " ที่นี่มีรายการอาหารให้เลือกหลากหลาย รสชาติอร่อย พนักงานยิ้มแย้มบริการดี .. กินกันอิ่มได้เวลากลับห้องพัก Koh Tao Hillside Resort คืนนี้ฝันดี...ราตรีสวัสดิ์
อรุณสวัสดิ์เกาะเต่าวันที่2 ตื่นมาพร้อมกับบรรยากาศมีฝนตกตอนดึกๆ เรายังนึกว่าจะได้ไปเกาะนางยวนมั้ยน้อออ แล้ว...เรายังมีความโชคดีอยู่บ้าง ฝนหยุดจ้าาา อาหารเช้าวันนี้ บริการส่งถึงห้องพัก " อาหารเช้ามาแล้วค่ะ " พนักงานที่นี่ทางชันทางลาด ขึ้นลงบันได เดินกันคล่องแคล่วมาก พอได้ดื่มด่ำบรรยากาศ วิวทะเล ที่มองจากห้องพัก ทำธุระส่วนตัวเสร็จ พร้อมออกเดินทางไปยังเกาะนางยวน เราต้องไปกันเช้าหน่อยก่อนที่นักท่องเที่ยวทั่วๆไปจะไปถึงกัน จะได้คนไม่เยอะ เก็บภาพกันสบายๆ
รวมพลกันที่ด้านล่างของรีสอร์ท ซึ่งเป็นท่าเรือส่วนตัว ใช้เวลาในการเดินทางจากเกาะเต่าไปเกาะนางยวนประมาณ 20 นาที ด้วยเรือโดยสาร2ชั้น " Let's go to Koh Nangyuan " เราก็แอบตื่นเต้นอีก เพราะอยากมานานแล้ว ชิวๆถ่ายรูปบนเรือไม่นาน เราก็มาถึง " เกาะนางยวน " ดินแดนในฝัน เกาะสวรรค์ของใครหลายคน รวมถึงเราด้วย
" เกาะนางยวน " อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า ห่างออกไปประมาณ 480 เมตร เป็นเกาะที่มีเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะเชื่อมกัน สงบ สามารถเห็นหาดทรายเชื่อมกันเวลาที่น้ำลง เนื่องจากเป็นเกาะเล็ก ๆ ไม่มีผู้อยู่อาศัย ความสะอาดความสวยงามเป็นสิ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาก ๆ หาดทรายขาวบนเกาะนี้ละเอียดนุ่มเท้ากว่าที่อื่นเลยจริง ๆ น้ำทะเลสีใส เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่มีค่าธรรมเนียมการขึ้นเกาะ เกาะจะเปิดให้ขึ้นเฉพาะช่วงเวลา 09.00-16.00 น. บนเกาะนางยวนก็มีที่พักให้บริการด้วย
ใครอยากมาดำน้ำที่นี่ก็ได้ หรือจะเดินขึ้นไปชมวิวเกาะนางยวนในมุมสูง ถือเป็นจุดไฮไลต์ของที่นี่เลย อีกทั้งเป็นสถานที่ที่โด่งดังสำหรับนักเดินทางที่ต้องการมา Snokerling หรือ ดำน้ำตื้น มีช่วงเวลาหนึ่งเราตื่นเต้นมาก กำลังเดินถ่ายรูปชิวๆบริเวณน้ำตื้น เห็นฝูงปลาตัวน้อยๆ สีทอง กระโดดขึ้นจากผิวน้ำทั้งฝูง ผ่านหน้าเราไป ได้แต่ตื่นเต้น ยกกล้องขึ้นถ่ายไม่ทัน
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม เกาะนางยวน ถึงได้กลายเป็นเกาะสวรรค์ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของโลก เพราะบรรยากาศเงียบสงบ รวมไปถึงความสวยงามของธรรมชาติไม่มีใครเกิน ถ้าใครยังไม่เคยไป ก็ต้องลองไป แล้วจะเข้าใจว่าทำไมต่างชาติถึงชื่นชอบและมาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย
#สุขทันทีที่เที่ยวเกาะนางยวน
ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่แสนสวยงาม ได้เวลากลับที่พัก รับประทานมื้อกลางวัน ซึ่งทางรีสอร์ทได้จัดเตรียมไว้ให้ ด้วยเมนูอาหารพื้นถิ่น เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ เลือกตักกันตามใจชอบ กับบรรยากาศริมทะเล ลมพัดเบาๆ กินเสร็จขึ้นห้องพัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มาเจอกัน ที่จุดนัดพบของห้องอาหารด้านบนนู่นนนนของรีสอร์ท
พร้อมออกเดินทางกันต่อที่ หาดลับเกาะเต่า" หาดฟรีด้อมบีช เกาะเต่า(Freedom Beach) " ฟรีด้อมบีชเป็นหาดเล็ก ๆ แต่ยอดนิยม ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทิศใต้ของเกาะเต่า ที่นี่มีเก็บเงินค่าเข้าหาดด้วย เป็นหาดทรายขาวละเอียดกับร่มเงาของต้นเทียนทะเลทำให้หาดฟรีด้อมบีช (Freedom Beach) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับไปนอนเล่นพักผ่อน ธรรมชาติที่น่าดึงดูดและน้ำทะเลใสยังเหมาะกับการดำน้ำตื้นดูแนวปะการังซึ่งอยู่ไม่ไกลกับชายหาด หาดฟรีด้อมบีช (หรือชื่อเดิม ‘หาดตาโต๊ะกลาง’) ยังเป็นจุดที่มองเห็นหินตาโต๊ะได้ใกล้ที่สุด แค่ตรงปลายแหลม
ที่นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมารอชมพระอาทิตย์ตก เรามาถึงตอนพระอาทิตย์กำลังจะตก ตั้งหน้าตั้งตารอชมกันเลย เสียดายที่เมฆเยอะมาก เลยมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่ก็ได้ภาพสวยๆมาฝาก ให้ชมกัน
มื้อค่ำนี้เรารับประทานอาหารกันที่ " ทรายแดงรีสอร์ท " รีสอร์ทสุดหรู กับบรรยากาศริมทะเล สบายๆ อาหารอร่อย บริการดีมาก กินอิ่ม ได้เวลากลับที่พัก ฝันดี...ราตรีสวสดิ์
อรุณสวัสดิ์... เช้านี้เรามีโปรแกรม ขึ้นเรือข้ามไปเกาะพะงัน ฝนตกแต่เช้าเลยจร้าาา พบกันที่ห้องอาหารด้านบนเหมือนเดิม ขอกินอาหารเช้า และกาแฟเติมคาเฟอีนให้ร่างกายก่อนนะ ฝนยังคงปรอยๆ พร้อมออกเดินทาง เพราะต้องรีบไปให้ทันขึ้นเรือ เวลาเก้าโมง ถึงท่าเรือ บรรยากาศคึกคักมาก นักท่องเที่ยวเยอะแยะเต็มท่าเรือ เนื่องจาก ตรงกับวัน FULL MOON นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเที่ยวงาน FULL MOON PARTY งานสังสรรค์ยามราตรีใต้แสงจันทร์เต็มดวง บ๊ายบาย...เกาะเต่า
มาเกาะเต่าจะดำน้ำชิวๆหรือจะมาถ่ายภาพวิวเฉยๆก็ได้
#สุขทันทีที่เที่ยวเกาะเต่า
ใช้เวลานั่งเรือจากเกาะเต่าไปเกาะพะงัน ประมาณ 1 ชั่วโมง เราเลือกที่จะนั่งด้านในห้องVIP เหมือนเดิม
เอาแล้ว....เช้านี้ คลื่นลมในทะเลไม่สงบ เนื่องจากมีฝน และมีคลื่นสูง ทำให้เรือต้องโต้กับคลื่น เรือเอียงไปเอียงมา ทุกคนต้องอยู่กับที่ เราก็แอบระทึกอยู่ในใจ พอดีมีเจ้าหน้าที่ มาเดินแจกถุงดำ เผื่อมีใครมีอาการเมาเรือ เราได้จังหวะถาม " คลื่นลมแบบนี้ถือว่าเยอะมั้ย " ได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า " ถือว่าไม่เยอะ " เฮ้ออออออ ค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย ยังงัยก็มั่นใจในเรือและคนขับเรือของลมพระยา
ชั่วโมงกว่าๆเราก็มาถึงเกาะพะงัน อันดับแรก ไปไหว้สักการะอนุสาวรีย์รัชกาลที่5 อยู่ใกล้กับท่าเรือเกาะพะงัน และอยู่ใกล้กับเรือรบ หรือพิพิธภัณฑ์เรือหลวงพงัน สามารถชมเรือหลวงได้ด้วย อยู่ติดทะเล
อากาศไม่เป็นใจครึ้มฟ้าครึ้มฝน จากที่วางโปรแกรมไว้ จะข้ามไปเกาะสมุย ตอนเย็น เปลี่ยนเวลาขึ้นมาเป็นตอนบ่าย จะได้ไม่ถึงมืด เพราะเราไม่รู้ว่าคลื่นลมในทะเลจะเหมือนที่เจออีกมั้ย ทุกคนตอบตกลง...โอเค
กินกลางวันที่พะงันกันก่อน ที่ร้าน " ถึงพะงัน " อยู่ในบ้านหลังเล็กๆ " บ้านนุ้ย " เป็นที่พักที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ส่วนอาหารสไตล์ฟิวชั่น คิดทำเมนูขึ้นมาตามใจคนปรุงและวัตถุดิบที่หามาได้ในแต่ละวัน
ยังมีเวลารอขึ้นเรือข้ามไปเกาะสมุย นั่งชิวๆกันที่คาเฟ่ ใกล้ท่าเรือ ได้พูดคุยกับ " พี่เกด " คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผอ.ททท.สำนักงานเกาะสมุย " ตอนนี้เราอยู่ที่เกาะพะงัน เดินทางง่ายๆ เป็นการเดินทางด้วยเรือเร็วของลมพระยา มีบริการรอบเกาะต่างๆเป็นการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างเกาะเต่าเกาะนางยวน แล้วก็มาถึงเกาะพะงัน เกาะพะงันไปสมุยต่อ ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่อยากจะแนะนำพี่น้องชาวไทยทุกคนลองเดินทางมาเที่ยวที่พะงัน ที่นี่ก็จะมีความแตกต่างจากเกาะเต่า เกาะเต่าจุดเน้นก็คือดำน้ำแต่คนไม่ดำน้ำก็ไปเที่ยวได้ไปชิวได้ รวมถึงเกาะนางยวน
สำหรับพะงันแล้ว ที่นี่ก็เหมือนกันมีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว มาแล้วได้รู้สึกสบายๆ ติดอันดับหรือworkationสำหรับคนต่างถิ่นที่เข้ามาพักที่นี่แล้วก็ทำงานไปด้วย แล้วก็อยากให้มาลองกับบรรยากาศนี้จริงๆ สำหรับการเดินทางมาเที่ยวพะงันวันนี้ เราก็จะมาแบบสบายๆไปนั่งชิวๆ กินร้านอาหารสบายๆ
นอกจากนั้นแล้วก็จะมีร้านกาแฟร้านไอศกรีมซึ่งเป็นของคนที่นี่จริงๆใช้วัตถุดิบพื้นถิ่นจริงๆ นอกจากได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์แล้วมารับพลังแสงจันทร์แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องมาเฉพาะปาร์ตี้พระจันทร์เต็มดวงหรือฟูลมูนปาร์ตี้ที่นี่เรามีอะไรหลากหลายมากกว่านั้น ได้มาสูดอากาศได้มากินอาหารอร่อย
จริงๆจะดูได้จากภาพเลย เรามีความสวยงามและความแตกต่างโดดเด่นไม่แพ้เกาะอื่นๆหรือชายหาดใดๆในโลกนี้ อาหารหลากหลายหาได้ในบนเกาะแล้วก็จะเป็นวัตถุดิบที่สดใหม่แล้วก็อร่อยธรรมชาติไม่ผ่านกระบวนการใดๆ
ถ้ามีเวลานะคะขอเชิญชวนคนไทยทุกคนเลยค่ะเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะพะงัน และเกาะสมุย และ นอกจากนั้นแล้วยังมีเกาะเล็กๆน้อยๆหลายเกาะ เชิญเที่ยวไทยกันค่ะ #สุขทันทีที่เที่ยวเกาะฝั่งอ่าวไทยค่ะ "
ได้เวลาขึ้นเรือ ที่ท่าเรือพะงัน สะดวกสบาย ปรับปรุงใหม่ นักท่องเทียวที่รอขึ้นเรือไปเกาะสมุยไม่หนาแน่น เรายังคงเลือกนั่งในห้องVIPเหมือนเดิม ...ได้เวลาเรือออกจากท่า นักท่องเที่ยวทุกคนพร้อมอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว คลื่นลมในทะเลแรง เหมือนกับตอนที่เราข้ามจากเกาะเต่ามาเกาะพะงัน ผ่านไป1ชั่วโมงเราก็ถึงเกาะสมุย ด้วยความปลอดภัย เย้ๆๆๆๆๆๆ
" หิวกันมั้ยคะน้องๆ " พี่เกดถาม พวกเราบอก " กินอีกแล้วเหรอคะ ที่คาเฟ่ก่อนขึ้นเรือยังไม่ย่อยเลย " มื้อเย็นนี้ ที่ร้าน " ข้าวหอม " เป็นร้านอาหารใต้ร้านแรกๆบนเกาะสมุย ร้านอยู่ติดถนนใหญ่ ที่จอดรถสะดวกสบาย เหมาะกับการกินก่อนเข้าที่พัก หรือก่อนกลับ เป็นอาหารรสชาติตำรับปักษ์ใต้แท้ๆ ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาเป็นเวลานาน ขอบอก... สั่งอะไรมาอร่อยทุกอย่าง อาหารรอไม่นาน อาหารถึงโต๊ะปุ๊บ ทุกคนไม่รอช้า ขอตักใส่จาน เราได้ยินเสียงแซวจากพี่เกดว่า " ไม่หิวกันเลยนะคะ55555 " อดใจไม่ไหวจริงๆค่ะพี่ แถมลืมถ่ายรูปด้วย มีรูปเท่านี้ อิอิ ขอแนะนำเลย " ร้านข้าวหอม เกาะสมุย " เป็น1ในร้านที่ได้ MICHELIN guide บนเกาะสมุยด้วย
หลังจากหนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน เพลียและสนุกสนานกับการนั่งเรือข้ามเกาะ ฝ่าคลื่นลมแรงในทะเลมา2รอบ ได้เวลาพักผ่อนกันตามสบาย คืนนี้เรานอนกันที่ " Royal Muang Samui Villas " เป็นรีสอร์ทหรูในอาคารสไตล์ไทย ตั้งอยู่ที่หาดเชิงมน เป็นที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนเนื่องจากอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมในเมืองเกาะสมุย จากโรงแรมสามารถเดินไปที่Choeng Mon Beach และใกล้สนามบิน
พอลงจากรถ เจอกับlobby ที่สวยงาม โปร่งโล่งสบาย นึกในใจพรุ่งนี้เราต้องสำรวจทุกจุด รับกุญแจ เข้าห้องพัก ของเราอยู่ชั้น2ของอาคาร พอเปิดประตูห้องพักเข้าไป ก็ว้าวๆๆๆๆๆๆ กับห้องพักที่ใหญ่มากกก สวยงาม ตกแต่งสไตล์ไทย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไทยดั้งเดิม ห้องพักมีให้เลือก หลายห้องมีวิวทะเล และวิวสวน
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายในห้องพัก มีอุปกรณ์ชงชาและกาแฟ ตลอดจนโต๊ะทำงาน และตู้นิรภัย ห้องน้ำส่วนตัวมีอ่างสปาและฝักบัวแยกเป็นสัดส่วน เราใช้เวลาในการบันทึกภาพนานมาก ถ่ายแล้วถ่ายอีก ห้องพักสวยทุกมุม แถมมีระเบียงนั่งชิวๆจิบไวน์ด้านนอกได้อีกด้วย
มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และห้องอาหารริมหาด ห้องพักแต่ละห้อง ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการนวดหรือทรีทเมนท์บำบัดด้วยกลิ่นหอมที่ Rai-Ra Spa หรือออกกำลังที่ห้องออกกำลังกาย มีบริการนำเที่ยวและบริการเช่ารถยนต์ มีบริการฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ในพื้นที่ส่วนกลาง เพลิดเพลินกับอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ทุกวันในระหว่างการเข้าพัก ด้วยการบริการที่ดีมาก มื้อกลางวันนี้ เรารับประทานกันที่ในโรงแรม ด้วยเมนูอาหารไทย
ได้เวลาช่วงบ่ายเราไปกันต่อที่ " บ้านโบราณ ณ สมุย " ดูแลโดยวิสาหกิจชุมชนบ้านเลสมุย
พอคณะเรามาถึง " คุณพินิจ " ประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านเลสมุยให้การต้อนรับ " ดื่มน้ำมะพร้าวเย็นๆกันก่อนนะครับ เป็นมะพร้าวปลูกเอง จากสวนด้านนู้น " ดื่มแล้วสดชื่นจริงๆแถมเนื้อมะพร้าวก็อร่อย จากนั้นคุณพินิจ พาชมบ้านโบราณ
บ้านโบราณ ณ สมุย เป็นบ้านของคนจีนที่อพยพมาอยู่เมืองไทยที่เกาะสมุย ตัวบ้านมีอายุมากกว่า 160 ปี สมัยปลายรัชกาลที่ 3 ปัจจุบันคนดูแลเป็นคนรุ่นที่ 5 บ้านหลังนี้เป็นการผสมผสานระหว่าง จีนกับไทยเข้าด้วยกันซึ่งมีแห่งเดียวในเกาะสมุย เราจะดูได้จากภาพแกะสลักใต้หลังคาและที่หน้าต่าง และรูปแบบการก่อสร้างบ้าน
มีกิจกรรมมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ทำร่วมทำกับชุมชน ได้แก่ กิจกรรมปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าวแบบดั้งเดิม การทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นแบบโบราณ และการทำขนมพื้นเมืองของเกาะสมุย เช่น ขนมด้วง มะพร้าวแก้ว
สามารถติดต่อล่วงหน้ามาทำกิจกรรมต่างๆได้คุณพินิจ เพ็ญจันทร์ 092-953-8919 ซึ่งที่นี่จะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนและก็เป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชนอีกด้วย
ครั้งนี้ทางบ้านได้เตรียมจัดกิจกรรมทำ" ขนมด้วง " เป็นขนมของทางปักษ์ใต้ ให้พวกเราได้หัดทำกัน เป็นที่สนุกสนาน ได้เวลาอันสมควร ขอลากลับ
" เดี๋ยวไปรับประทานอาหารเย็นที่ " ร้านกะปิ-สะตอ " กันก่อนขึ้นเครื่องกลับนะคะ " เสียงของน้องเปิ้ล ททท. บอกกับพวกเรา เมนูมื้อนี้เป็นอาหารถิ่นภาคใต้ ซึ่งเราก็กินได้ไม่เบื่อ อิ่มนี้เป็นมื้อสุดท้ายบนเกาะสมุย พร้อมเดินทางต่อไปยังสนามบินกลับกรุงเทพฯ
การเดินทางครั้งนี้ 4 คืน 4 วัน กับประสบการณ์ใหม่ของเรา บอกเลยว่ามันคุ้มค่ามาก ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามมากๆ ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ได้กินอาหารปักษ์ใต้ที่แสนอร่อย เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้จริงๆ ไปเที่ยวเกาะคนไม่ดำน้ำก็เที่ยวได้ เกาะต่างๆฝั่งอ่าวไทยภาคใต้ สวยงามไม่แพ้ที่ต่างๆ
แนะนำ.. คุณต้องไปสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักทุกที่
" ไม่เคยเป็นสายเปย์ แต่มาทะเลเปย์หมดใจ "
#สุขทันทีที่เที่ยวเกาะสมุย
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเกาะสมุย
สอบถามเพิ่มเติม โทร 077 420 504 ในวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
หรือทาง Facebook Fanpage: TATKohSamui
บริษัทเรือเร็วลมพระยา จำกัด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถจองแพ็คเกจได้ภายในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 69 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ททท.สำนักงานเกาะสมุย โทร. 077 420 504 ในวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
หรือทาง Facebook Fanpage: TATKohSamui
หรือทาง Facebook Fanpage: TATKohSamui
#TATKohSamui
#เรือเร็วลมพระยา
No comments:
Post a Comment