‘ศรณ์’ คว้ารางวัล ‘สามดาวมิชลิน’ ร้านแรกในไทย สร้างตำนานความสำเร็จในวงการอาหารระดับประเทศและระดับโลก - All Miles

Breaking

Home Top Ad

Thursday, November 28, 2024

‘ศรณ์’ คว้ารางวัล ‘สามดาวมิชลิน’ ร้านแรกในไทย สร้างตำนานความสำเร็จในวงการอาหารระดับประเทศและระดับโลก


• คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 มีร้านอาหารผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 462 ร้าน เป็นร้านรางวัล ‘สามดาวมิชลิน’ 1 ร้าน, ‘สองดาวมิชลิน’ 7 ร้าน, ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ 28 ร้าน, รางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ 156 ร้าน และร้านแนะนำ หรือ MICHELIN Selected อีก 270 ร้าน

• สำหรับรางวัล ‘ดาวมิชลินรักษ์โลก’ หรือ MICHELIN Green Star มีร้านใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง คือ ‘บ้านเทพา’ ที่ไม่เพียงมีแนวปฏิบัติด้านการประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แต่ยังขับเคลื่อนชุมชนให้มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

• จังหวัดชลบุรี ซึ่ง ‘มิชลิน ไกด์’ ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก มีร้านอาหารได้รับการตีพิมพ์ในคู่มือฯ รวมทั้งสิ้น 20 ร้าน เป็นร้านระดับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ 5 ร้าน และร้านแนะนำ 15 ร้าน


ในงานเปิดตัวคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 (The MICHELIN Guide Thailand 2025) บุคลากรในแวดวงอาหารของไทยร่วมฉลองความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ หลังจาก ‘ศรณ์’ ได้รับการประกาศชื่อเป็นร้านอาหารที่คว้ารางวัลระดับ ‘สามดาวมิชลิน’ อันทรงเกียรติมาครองได้สำเร็จเป็นร้านแรกในไทย ทั้งนี้ ภายในงานนอกจากจะมีการเปิดเผยรายชื่อร้านอาหารทั้งหมดที่ผ่านการคัดสรรให้ตีพิมพ์ลงในคู่มือฯ ฉบับล่าสุดแล้ว ยังมีพิธีมอบรางวัลและฉลองความสำเร็จให้กับบุคลากรและทีมงานร้านอาหารที่ได้รับรางวัล ‘ดาวมิชลิน’ และรางวัลพิเศษอื่น ๆ อีกด้วย


คู่มือฉบับปีล่าสุดนี้บรรจุรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 462 แห่ง เป็นร้านที่ได้รับรางวัล ‘สามดาวมิชลิน’ 1 ร้าน (เลื่อนระดับจาก ‘สองดาวมิชลิน’), รางวัล ‘สองดาวมิชลิน’ 7 ร้าน (เลื่อนระดับจาก ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ 1 ร้าน), รางวัล ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ 28 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 4 ร้าน และเลื่อนระดับจาก MICHELIN Selected 1 ร้าน), รางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ 156 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 20 ร้าน) และร้านแนะนำ หรือ MICHELIN Selected อีก 270 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 44 ร้าน) โดยในจำนวนร้านใหม่ที่ติดอันดับครั้งแรกในคู่มือฯ ฉบับล่าสุดซึ่งเป็นฉบับที่ 8 ของไทย เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี ซึ่ง ‘มิชลิน ไกด์’ ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจและจัดอันดับเป็นปีแรก รวมทั้งสิ้น 20 ร้าน (ร้านระดับ ‘บิบ กูร์มองด์’ 5 ร้าน และร้านแนะนำ หรือ MICHELIN Selected 15 ร้าน)


เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec)
ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก กล่าวแสดงความเห็นว่า “การที่ประเทศไทยมีร้านอาหารได้รับรางวัล ‘สามดาวมิชลิน’ เป็นร้านแรก ทำให้ปี 2568 เป็นปีสำคัญของไทยในหน้าประวัติศาสตร์แวดวงอาหารระดับสากล รายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนความร่ำรวยและหลากหลายของอาหารไทย แต่ยังแสดงให้เห็นว่าศาสตร์และศิลป์ด้านอาหารการกินของไทยโอบรับวัฒนธรรม ความทันสมัย และเทรนด์ใหม่ ๆ เอาไว้อย่างลงตัว”

แนวโน้มและทิศทางวงการอาหารของไทยจากการสำรวจโดยผู้ตรวจสอบของมิชลิน ไกด์

จากการเปิดเผยของ มร.ปูลเล็นเนค ผู้ตรวจสอบของ ‘มิชลิน ไกด์’ พบว่ามีร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้านอาหารเหล่านี้ดำเนินการโดยเชฟผู้มีความสามารถชาวไทย ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุต่ำกว่า 35 ปี เคยผ่านประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ และ/หรือ ศึกษาศาสตร์การทำอาหารสไตล์ตะวันตก โดยเชฟเหล่านี้ริเริ่มก่อตั้งธุรกิจร้านอาหารในจังหวัดบ้านเกิดของตนเอง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำเสนออาหารไทยดั้งเดิมในรูปแบบที่ทันสมัยและดูน่าสนใจ ส่งผลให้ “อาหารไทยร่วมสมัย” ก้าวข้ามขีดจำกัดที่มีอยู่เดิม

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมร้านอาหารหรูประเภท ‘ไฟน์ ไดนิ่ง’ (Fine Dining) ในไทย ยังดึงดูดเชฟชาวต่างชาติจากทั่วโลกให้เข้ามาทำงาน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเชฟท้องถิ่น และมีบทบาทในการฝึกฝนทีมงานร้านอาหารรุ่นใหม่ อีกทั้งประเด็นเรื่องความยั่งยืนและการจัดหาวัตถุดิบภายในท้องถิ่นยังได้รับความสนใจแพร่หลายมากขึ้นในไทย โดยเชฟใส่ใจเลือกใช้วัตถุดิบภายในท้องถิ่นมากขึ้นและประสานความร่วมมือกับผู้ผลิตรายย่อยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แนวโน้มดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้เชฟท้องถิ่นริเริ่มนำเสนอสิ่งใหม่และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม

ยิ่งกว่านั้น ยังเห็นได้ชัดว่ามีภัตตาคารสไตล์เรียบง่ายและร้านอาหารขนาดเล็กจำนวนหนึ่งถ่ายทอดสูตรอาหารจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรสชาติดั้งเดิมเอาไว้ ภัตตาคารและร้านอาหารประเภทดังกล่าวมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่สามารถหาอาหารคุณภาพเยี่ยมหลากรูปแบบทานได้ในราคาสบายกระเป๋า


‘ศรณ์’
สร้างประวัติศาสตร์ คว้า ‘สามดาวมิชลิน’ มาครองเป็นร้านแรกในไทย

ศรณ์ ...ร้านอาหารใต้ที่ถ่ายทอดศิลปะการปรุงอาหารผ่านฝีมืออันเป็นเลิศ ตลอดจนการผสมผสานอย่าง ลงตัวระหว่างตำรับโบราณและนวัตกรรมสมัยใหม่ ทุกจานรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต พิถีพิถัน และลุ่มลึก นำเสนอประสบการณ์การรับประทานที่น่าตื่นเต้นและกลมกล่อมอย่างไม่มีที่ติ... ก้าวสู่การเป็นร้านอาหารระดับตำนานในฐานะที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดระดับ ‘สามดาวมิชลิน’ มาครองเป็นร้านแรกในประเทศไทย

ศรณ์ ได้รับการจัดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2562 เป็นครั้งแรก โดยได้รับรางวัล ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ เพียงหนึ่งปีต่อมาก็ได้รับการเลื่อนระดับเป็นร้าน ‘สองดาวมิชลิน’ และสามารถครองสถานะระดับ ‘สองดาวมิชลิน’ เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปี การก้าวขึ้นคว้ารางวัลระดับ ‘สามดาวมิชลิน’ ได้ในคู่มือฯ ฉบับปี 2568 นับเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นเลิศ คุณภาพ และความสม่ำเสมอ ที่ส่งผลให้ ศรณ์ เปลี่ยนสถานะจากร้านอาหารยอดเยี่ยมที่ควรค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม กลายเป็นสุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเป็นจุดหมายปลายทางที่ควรดั้นด้นเดินทางเพื่อไปชิมสักครั้ง



รางวัล ‘สองดาวมิชลิน’ มีร้านติดอันดับเพิ่มหนึ่งแห่ง คือ ‘โค้ท บาย เมาโร โคลาเกรคโค’

ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 มีร้านอาหารคว้ารางวัลระดับ ‘สองดาวมิชลิน’ เพิ่มขึ้นเพียงร้านเดียว โดยได้รับการเลื่อนระดับจาก ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ คือ โค้ท บาย เมาโร โคลาเกรคโค ร้านอาหารที่นำเสน่ห์แห่งรสชาติจากเฟรนช์ริเวียราสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผสานกลิ่นอายจากเมดิเตอร์เรเนียน ฝรั่งเศส และอิตาลี ทุกจานอาหารรังสรรค์ด้วยเทคนิคอันล้ำสมัยจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ดีที่สุดในแต่ละวันเพื่อสร้างสรรค์เมนูอันเป็นเอกลักษณ์

สำหรับร้านอาหาร บ้านเทพา, เชฟส์เทเบิล, กา, เมซซาลูน่า, อาหาร และซูห์ริง ยังคงครองสถานะ ‘สองดาวมิชลิน’ เอาไว้ได้ ทำให้ประเทศไทยมีร้านระดับ ‘สองดาวมิชลิน’ จำนวนทั้งสิ้น 7 ร้าน



รางวัล ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ มีร้านติดอันดับเพิ่มขึ้น 5 ร้าน

สำหรับรางวัล ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ ซึ่งมีร้านใหม่ติดโผ 5 ร้าน ในจำนวนนี้ 4 ร้านได้รับการจัดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย เป็นครั้งแรก ส่วนอีก 1 ร้านได้รับการเลื่อนระดับจากร้านแนะนำ หรือ MICHELIN Selected

ร้านใหม่ระดับ ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ ที่ติดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย เป็นครั้งแรก ได้แก่ อัคคี ร้านอาหารที่สร้างความประทับใจด้วยเมนูอาหารไทยรสจัดจ้านจากภูมิภาคต่าง ๆ เสิร์ฟในบรรยากาศสุดพิเศษท่ามกลางแสงสลัว ใช้เทคนิคการทำอาหารที่พิถีพิถันในครัวที่เรียบง่าย โดยปรับสูตรอาหารไทยคลาสสิกให้เข้ากับวัตถุดิบตามฤดูกาล ทำให้อาหารมีเอกลักษณ์และรสชาติที่ชัดเจน, เอวองท์ ร้านอาหารที่เชฟชาวสิงคโปร์รังสรรค์อาหารโดยผสานเทคนิคดั้งเดิมและสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว และพิถีพิถันในทุกรายละเอียด, โกท ร้านอาหารที่ผสมผสานองค์ประกอบของอาหารไทย จีน และตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาดภายใต้แนวคิดฤดูกาลของไทย โดยใช้ทั้งสมุนไพรที่ปลูกในร้านและวัตถุดิบจากทั่วประเทศไทย และ อาวลิส ร้านอาหารสไตล์ "เชฟส์ เทเบิล" ที่นำเสนอเทสติงเมนูหลายคอร์สจากวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยและเกษตรกรในพื้นที่ ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในบรรดาร้านใหม่ติดอันดับ ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ มี 2 ร้านที่ตั้งอยู่นอกเขตกรุงเทพมหานคร คือ อัคคี ในจังหวัดนนทบุรี และ อาวลิส ในจังหวัดพังงา

ร้านใหม่ระดับ ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ ที่เลื่อนระดับจากร้านแนะนำ หรือ MICHELIN Selected เพียงหนึ่งเดียว คือ โคด้า ร้านอาหารที่เชิดชูแก่นแท้ของอาหารไทยท้องถิ่น พร้อมผสมผสานเทคนิคสมัยใหม่เพื่อสร้างอัตลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทุกเทสติงเมนูรังสรรค์อย่างประณีต อัดแน่นไปด้วยรสชาติที่ละเอียดอ่อนและมีมิติอย่างล้ำลึก



รางวัล MICHELIN Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” มีร้านติดอันดับเพิ่มขึ้นหนึ่งร้าน คือ ‘บ้านเทพา’

นอกจาก พรุ, ฮาโอมา และ จำปา ซึ่งครองรางวัล MICHELIN Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” ที่มอบให้กับร้านอาหารซึ่งดำเนินกิจการและมีแนวปฏิบัติประจำวันด้านการประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแล้ว 

ยังมีร้านอาหารร่วมครองรางวัลนี้อีก 1 ร้านในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2568 ได้แก่ บ้านเทพา ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่เชฟและทีมงานไม่เพียงทุ่มเทใส่ใจในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ปลูกสมุนไพรและดอกไม้กินได้ในสวนหลังร้าน, เลือกใช้วัตถุดิบจากผู้ผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, เปลี่ยนขยะอาหารเป็นปุ๋ย ตลอดจนรังสรรค์อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ก่อให้เกิดขยะ แต่ยังริเริ่มโครงการเพื่อขับเคลื่อนชุมชนให้มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมของเชฟและทีมงานยังคงแข็งแกร่งแม้ต้องฟันฝ่าช่วงเวลาที่ยากลำบากจึงสมควรได้รับการยกย่องในความมุ่งมั่นอุทิศตนเพื่อสิ่งแวดล้อม


รางวัลพิเศษ 4 รางวัล

ปัจจุบัน คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย มอบรางวัลพิเศษรวม 4 รางวัล ให้กับบุคลากรมืออาชีพจากร้านอาหารที่ติดอันดับในคู่มือฯ ซึ่งมีความสามารถโดดเด่นและมีบทบาทในการยกระดับประสบการณ์ด้านอาหารให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น อันเป็นการส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมด้านอาหารและบริการเป็นที่น่าสนใจและน่าทำงานด้วย



• รางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award

MICHELIN Guide Young Chef Award เป็นรางวัลพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนโดย “บลองแปง” (Blancpain) แบรนด์นาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ รางวัลนี้มอบให้กับสุดยอดเชฟรุ่นใหม่ที่แสดงศักยภาพโดดเด่นตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ด้วยคุณสมบัติและทักษะความสามารถในการรังสรรค์อาหารอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2568 คือ “อู๋” สิทธิกร จันทป เชฟและเจ้าของร้านอัคคี ด้วยความหลงใหลในอาหารไทยแบบดั้งเดิม เชฟอู๋เลือกใช้วัตถุดิบหายากมาปรุงอาหารและจัดจานอย่างสวยงาม สะท้อนทักษะความเชี่ยวชาญ เอกลักษณ์เฉพาะตัว และผสานความทันสมัยเอาไว้อย่างลงตัว ซึ่งผู้ตรวจสอบของ ‘มิชลิน ไกด์’ ชื่นชมและรอดูการนำอาหารไทยต้นตำรับ ไปสู่มิติใหม่ ๆ ในอนาคต



• รางวัล MICHELIN Guide Opening of the Year Award

MICHELIN Guide Opening of the Year Award เป็นรางวัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยธนาคารยูโอบี (UOB) มอบให้กับบุคลากรและทีมงานซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดร้านอาหารใหม่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยมีแนวคิดที่โดดเด่นในการนำเสนออาหารอย่างสร้างสรรค์ จนกลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจจากวงการอาหารในประเทศ สำหรับผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2568 คือ ดิมิทริออส มูดิออส (Dimitrios Moudios) เชฟและเจ้าของร่วม (Co-Owner Chef) ของร้าน Ōre ร้านอาหารบรรยากาศสุดมินิมัลที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำผ่านเมนูสร้างสรรค์ 30 คอร์ส ซึ่งประกอบด้วยวัตถุดิบหายากและวัตถุดิบที่ผ่านการหมัก รังสรรค์ด้วยเทคนิคการปรุงอาหารหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ได้รสชาติที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว



• รางวัล MICHELIN Guide Service Award

MICHELIN Guide Service Award เป็นรางวัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มอบให้สุดยอดบุคลากรของร้านอาหารที่ทุ่มเทให้กับการบริการเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2568 คือ ยุพา สุขเกษม ผู้จัดการร้านบ้านเทพา ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานถึง 6 ปี จากการทำงานในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม คุณยุพาให้บริการอย่างมืออาชีพด้วยความใส่ใจ การให้บริการของเธอและทีมงานสร้างความประทับใจให้กับทีมผู้ตรวจสอบของ ‘มิชลิน ไกด์’ และทำให้การรับประทานอาหารเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ



• รางวัล MICHELIN Guide Sommelier Award

MICHELIN Guide Sommelier Award เป็นรางวัลที่มอบให้กับ “ซอมเมอลิเยร์” หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น โดยให้บริการอย่างมืออาชีพ และมีความชำนาญในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับไวน์ชนิดต่าง ๆ รวมถึงการจับคู่ไวน์กับเมนูอาหาร เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ด้านอรรถรสสูงสุด โดยผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2568 คือ ฐานสิทธิ์ วาสินนท์ จากร้าน โค้ท บาย เมาโร โคลาเกรคโค ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ด้วยประสบการณ์ 4 ปี ในสายงานด้านซอมเมอลิเยร์ คุณฐานสิทธิ์มีความเป็นมืออาชีพและรู้จริงในการนำเสนอและแนะนำไวน์ การให้คำแนะนำอย่างมั่นใจแต่สุภาพอ่อนน้อมอยู่ในที ทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินไปกับการลิ้มลองรสชาติไวน์อย่างได้อรรถรสเต็มเปี่ยม



สรุปจำนวนร้านอาหารที่ได้รับรางวัลจากคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย 2568’

ร้านอาหารระดับ ‘สามดาวมิชลิน’ จำนวน 1 ร้าน (เลื่อนระดับจาก ‘สองดาวมิชลิน’)

ร้านอาหารระดับ ‘สองดาวมิชลิน’ จำนวน 7 ร้าน (เลื่อนระดับจาก ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ 1 ร้าน)

ร้านอาหารระดับ ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ จำนวน 28 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 4 ร้าน และเลื่อนระดับจาก MICHELIN Selected 1 ร้าน)

ร้านอาหารรางวัล ‘ดาวมิชลินรักษ์โลก’ จำนวน 4 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 1 ร้าน)

ร้านอาหารรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จำนวน 156 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 20 ร้าน)

ร้านแนะนำ หรือ MICHELIN Selected จำนวน 270 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 44 ร้าน)



คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย 
ได้ทางwebsite :guide.michelin.com/th/th
หรือติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทาง facebook.com/MICHELINGuideAsia

ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น The MICHELIN Guide Worldwide 

website :guide.michelin.com/th/th

Facebook: facebook.com/MichelinGuideAsia

Youtube: youtube.com/MICHELINGuideAsia

Instagram: @MichelinGuide

#มิชลินไกด์ฉบับประเทศไทยประจำปี2568

No comments:

Post a Comment

Pages