น้ำแร่ 6ty° Degrees (Sixty Degrees: ซิกตี้ ดีกรี) เปิดเกมปี 68 รุกขยายฐานสู่ตลาดต่างประเทศ หวังเปิดประตูสู่ตลาดระดับภูมิภาค เติบโตเป็น Regional Brand ด้วยการรุกทำตลาด Prosumer ซึ่งเป็นผู้บริโภคฉลาดเลือก กลุ่มรักษ์สุขภาพ พร้อมเข้าร่วมเผยโฉมโปรดักท์ในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 เป็นปีแรก
คุณรีน่า อุดมคุณธรรม ผู้ก่อตั้ง บริษัท แร่เบฟเวอเรจ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำแร่ธรรมชาติ ภายใต้แบรนด์ 6ty Degrees (ซิกตี้ ดีกรี) ได้เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 นี้ว่า
“บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเติบโตในตลาดต่างประเทศ และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยด้วยจุดขายสำคัญที่ 6ty Degrees เป็นน้ำแร่ธรรมชาติ 100% จากแหล่งน้ำแร่ร้อนที่เชียงดาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำแร่ร้อนใต้พิภพแห่งเดียวของประเทศไทย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งใหม่ของโลก โดยองค์กรการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ทั้งนี้ น้ำแร่จากแหล่งนี้ผ่านชั้นหินที่ความลึก 250 เมตรที่อุณหภูมิ 60 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิพอเหมาะในการฆ่าเชื้อโรคและยังรักษาเเร่ธาตุที่มีอยู่ไว้ได้อย่างครบถ้วน และปราศจากโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้ 6ty Degrees อุดมไปด้วยแร่ธาตุถึง 16 ชนิดที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ แมกนีเซียม โพแทสเซียม ไบคาร์บอเนต ซิลิกา แคลเซียม โซเดียม เหล็ก สังกะสี ไอโอดีน ฟลูออไรด์ แมงกานีส ลิเทียม ฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ โบรอน สตรอนเทียม นอกจากนี้ ยังมีจุดขายที่สำคัญอีกประการของแบรนด์ นั่นคือ ฝาขวดรักษ์โลกที่ดีไซน์ให้เป็นชิ้นเดียวกันกับตัวขวด เพียงแค่หมุนฝาขวดและเปิดฝาขวดค้างไว้ที่ 170 องศาก็สามารถดื่มน้ำได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าฝาขวดจะหายหรือตกหล่นและยังสะดวกต่อการแยกขยะอีกด้วย”
ทั้งนี้ ในการทำตลาดต่างประเทศ คุณรีน่า เปิดเผยว่า เนื่องจากเทรนด์ของตลาดน้ำแร่บรรจุขวดที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัดในหลายภูมิภาค รวมทั้งประเทศไทย อาทิ ไลฟ์สไตล์คนเมือง (Urbanization) ที่ขยายตัวไปทั่วประเทศและในระดับโลก ความต้องการบริโภคน้ำดื่มที่มีความปลอดภัย มีคุณสมบัติพิเศษ และมีคุณค่ามากกว่าน้ำดื่มธรรมดาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ตลาดน้ำแร่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับการทำตลาดดังกล่าว บริษัทฯ เลือกเน้นเจาะกลุ่มรักสุขภาพ กลุ่มผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ระดับกลาง-บน และกลุ่ม Prosumer หรือผู้บริโภคที่ฉลาดเลือก”
ที่สำคัญ ในปีนี้ บริษัทฯ ได้เลือกเปิดตัวผ่านงานเทรดแฟร์ที่สำคัญทางด้านอาหารและเครื่องดื่มของภูมิภาคอย่าง THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 เป็นปีแรก เนื่องจากเป็นงานที่มีพันธมิตรธุรกิจ (trader) ประมาณ 8.6 หมื่นคนในปี 2567 จาก 131 ประเทศ (อ้างอิงจาก asiafoodbeverages.com) และทำให้เกิดมูลค่าการค้ามูลค่า 9.63 หมื่นล้านบาท (อ้างอิงจาก foodengineeringmag.com) ฉะนั้น การร่วมงาน THAIFEX ครั้งนี้จึงทำให้เรามั่นใจว่า จะช่วยทำให้เราสามารถเข้าถึงผู้นำเข้าในตลาดเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะ เป็นธุรกิจค้าปลีกระดับพรีเมียม หรือแม้แต่โรงแรมและร้านอาหารไทยในประเทศนั้นๆ ซึ่งจะสามารถตอกย้ำถึงแหล่งกำเนิดของน้ำแร่ 6ty Degrees ที่มาจากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติจากประเทศไทยได้ คุณรีน่ากล่าว
สำหรับการทำตลาดในประเทศไทยนั้น บริษัทฯได้รุกเปิดตัวแคมเปญใหม่ 6ty Manifesto เพื่อสร้าง awareness กับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ให้เห็นความแตกต่างของแบรนด์ในตลาดน้ำแร่ ด้วยไลฟ์สไตล์ที่ไม่ใช่อะไรก็ได้แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวกได้อย่างแตกต่างและฉลาดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองตลอดเวลา ด้วย 3 กลยุทธ์ นั่นคือ
• การสื่อสารทางการตลาดครบวงจร (Integrated Marketing Communication: IMC) เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์กับผู้บริโภคในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วผ่านแคมเปญโฆษณาที่ผสมผสานกันระหว่าง functional และ emotional engagement อย่างแตกต่างและมีสไตล์ภายใต้แนวคิด “ชีวิตที่ดี เริ่มต้นที่ 60 องศา”
• ประสบการณ์กับแบรนด์ (Brand Experiencial Activation) ด้วยการสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผ่านแนวคิด More Than Water Activation ที่เน้นความสนุกแปลกใหม่ เข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านแนวคิด “ยกระดับรสชาติ เพิ่มคุณค่าให้มื้ออร่อย”
• ผลิตภัณฑ์ใหม่ (New Product Development) ภายใต้คอนเซ็ปท์ Active Healthy Lifestyle เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ นอกเหนือไปจากปัจจุบันนำร่องโดยการบุกเข้าตลาดขวดแก้ว (Non-returnable glass bottle) และแร่รสชาติผลไม้ผสมวิตามินสำหรับเด็ก
คุณรีน่า เปิดเผยต่อไปถึงทิศทางการทำตลาดว่า เรายังคงเน้นรุกทำตลาดทั้งในประเทศและมุ่งขยายฐานสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ดี และเห็นความสำคัญของการรักสุขภาพ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เป็นต้น พร้อมตั้งเป้าที่จะเติบโตในอัตราตัวเลขสองหลัก (Double Digits) ในปีนี้ แม้ว่าจะต้องยอมรับว่า ภาวะการณ์แข่งขันในตลาดนี้เข้มข้น ดังจะเห็นได้จากปี 2567 ที่ผู้เล่นทุกค่ายในตลาดต่างก็อัดงบการตลาดเพื่อสร้างการตระหนักรู้ให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญของการบริโภคน้ำแร่ ที่สำคัญ ผู้เล่นแต่ละรายก็พยายามที่จะรักษาหน้าตักของตนเองให้ได้จึงทำให้มีการใช้งบการตลาดเพื่อสร้าง awareness สูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านโทรทัศน์ ซึ่งเป็นสื่อที่เข้าถึงได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว อย่างน้อยก็เพื่อปกป้อง Share of Voice ของแบรนด์”
No comments:
Post a Comment