DiaStar Original Skeleton นาฬิกาเรือนพิเศษ สำหรับคนสุดพิเศษ และความหลงรักนาฬิกาเรือนใหม่ของ จีชางอุค (Ji Chang-Wook) ณ เปิดบูติกสโตร์แห่งล่าสุด ในเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง - All Miles

Breaking

Home Top Ad

Thursday, December 7, 2023

DiaStar Original Skeleton นาฬิกาเรือนพิเศษ สำหรับคนสุดพิเศษ และความหลงรักนาฬิกาเรือนใหม่ของ จีชางอุค (Ji Chang-Wook) ณ เปิดบูติกสโตร์แห่งล่าสุด ในเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง


หมุนเข็มนาฬิกากลับไปยังปีค.ศ.1962 Rado ได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญขึ้นในแวดวงอุตสาหกรรมนาฬิกา ด้วยการเปิดตัว DiaStar รุ่นบุกเบิก ซึ่งโดดเด่นทั้งด้านงานออกแบบที่มีรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร และการเลือกใช้วัสดุที่มีความทนทานสูงมาก แม้ในยุคนั้น ผู้คนจะยังไม่รู้แน่ชัดว่านาฬิกาเรือนนี้ทำจากอะไร แต่เอกลักษณ์กับคุณภาพของ DiaStar รุ่นแรกก็มีมากพอที่จะสร้างความมั่นใจให้คนจำนวนมากหันมาติดตามแบรนด์ และยังเชื่อมั่นใน Rado จนกระทั่งทุกวันนี้


จากนั้น เมื่อถึงวาระครบรอบ 60 ปี DiaStar ในปีค.ศ.2022 แบรนด์ก็ได้นำเสนอนาฬิกาในตำนานอีกครั้ง โดยเปลี่ยนวัสดุหลักจากทังสเตนคาร์ไบด์เป็น Rado Ceramos™ ที่ทั้งแข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วน และน้ำหนักเบา จึงถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งให้คนรักนาฬิกาทั่วโลกได้ตื่นตาตื่นใจกับการพัฒนาครั้งใหม่ ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่นเคย


เพื่อยืนยันถึงความเป็นตัวจริงของผู้ที่เคยปฏิวัติการออกแบบนาฬิกามาแล้วในปี 1962 และความเชี่ยวชาญด้านวัสดุ ปีนี้ Rado จึงพา DiaStar กลับมาอีกครั้ง ในรุ่น DiaStar Original Skeleton นาฬิกาสีเยลโลว์โกลด์เรือนแรกที่ขอบหน้าปัดทำจาก Ceramos™ รูปทรงยังคงดูหนักแน่น มีความโค้งมน ซึ่งดีไซน์นี้ถือเป็นมรตกทอดประจำรุ่นไปแล้ว หน้าปัดมาในรูปแบบ “Art of Skeletonization” อันโด่งดังของแบรนด์ ที่เผยให้เห็นกลไกคาลิเบอร์ R808 เคลือบแอนทราไซด์สีเทา ซึ่งอยู่ภายใต้คริสตัลแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวเรือน


รายละเอียดการออกแบบจุดอื่นๆ ก็ยังคงพิถีพิถันเช่นเคย เริ่มจากการพิมพ์โลโก้ Rado และ DiaStar ไว้บนพื้นผิวด้านในของคริสตัลแซฟไฟร์ หน้าปัดเป็นสีดำตัดกับสีทองของตัวเรือน เข็มนาฬิกาและแทร็กบอกเวลาพิมพ์สีขาวล้อมรอบด้วยสีเยลโลว์โกลด์เคลือบสาร Super-LumiNova® เพื่อให้เราเห็นเวลาได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง ส่วนสัญลักษณ์รูปสมอสีทองของ Rado โดดเด่นอยู่บนพื้นหลังสีแดง สายนาฬิกาใช้สแตนเลสขัดเงาเคลือบ PVD สีเดียวกับตัวเรือน ตัวล็อกแบบพับสามทบใช้ระบบ EasyClip

ส่วนกลไกการเดิน R808 สำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง มีแฮร์สปริง Nivachron™ มาช่วยป้องกันสนามแม่เหล็กที่อยู่รอบตัวเราในทุกวันนี้ ทำให้ DiaStar Original Skeleton บอกเวลาได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพแวดล้อม และยังกันน้ำได้ถึง 10 บาร์ (100 เมตร)

นอกจากคุณสมบัติทั้งหมดนี้จะตอกย้ำถึง DNA ของ Rado และรุ่น DiaStar ได้เป็นอย่างดีแล้ว การพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้งยังช่วยยืนยันว่า Rado ยังคงทำงานตามวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่างแน่วแน่ นั่นคือ “ถ้าเราจินตนาการสิ่งใดขึ้นมาได้ แปลว่าเราก็สร้างสรรค์สิ่งนั้นได้ แล้วถ้าเราสามารถทำได้ เราก็จะลงมือทำ!” ซึ่งความพิเศษครั้งล่าสุดที่ Rado เพิ่งลงมือทำไป คือการเปิดบูติกสโตร์แห่งล่าสุด ณ Pavillion Mall ศูนย์กลางค้าหรูใจกลางกัวลาลัมเปอร์ โดยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างจีชางอุค (Ji Chang-Wook) พระเอกคนดังแห่งเกาหลีใต้เดินทางมาร่วมงานเปิดบูติกเมื่อ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา และจีชางอุคก็คือคนแรกที่ได้ครอบครอง DiaStar Original Skeleton สีเยลโลว์โกลด์อย่างเป็นทางการ ทำให้เขาถึงขั้นเอ่ยปากว่า “ผมหลงรักนาฬิกาเรือนใหม่ล่าสุดนี้มากๆ เลยละครับ”

นี่ถือเป็นอีกเสียงที่ช่วยการันตีว่า DiaStar Original Skeleton คือนาฬิกาเรือนพิเศษอย่างแท้จริง ที่ Rado บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อคนสุดพิเศษทุกคนในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองสิ้นปีนี้
 


DiaStar 1962—ประวัติศาสตร์แห่งอนาคต
ในยุคหลังสงคราม โลกเราก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต่างๆ เฟื่องฟู เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมนาฬิกา บริษัท Schulp & Co. (ปัจจุบัน คือ Rado) จึงตัดสินใจสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่นขึ้นมา เพื่อให้ได้นาฬิกาที่ใช้งานได้นานกว่า มีอายุยืนยาวกว่านาฬิกาชั้นเยี่ยมในตลาดแทบทุกยี่ห้อ นี่คือจุดเริ่มต้นที่ Rado ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุ
วิศวกรของบริษัททำงานร่วมกับดีไซเนอร์อย่างหนักเพื่อค้นหาวัสดุที่ตอบโจทย์และสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งผู้ก่อตั้ง Schulp & Co. มั่นใจว่าทีมงานของตนต้องทำได้ เหมือนที่เคยบอกไว้ว่า “ถ้าเราจินตนาการสิ่งใดขึ้นมาได้ แปลว่าเราก็สร้างสรรค์สิ่งนั้นได้ แล้วถ้าเราสามารถทำได้ เราก็จะลงมือทำ!”
ในยุคที่นาฬิกาส่วนใหญ่ทำจากทอง หรือทองเหลืองชุบ ส่วนกระจกหน้าปัดก็มักใช้พอลิเมอร์หรือแร่ แต่ Rado ได้ริเริ่มนำทังสเตนคาร์ไบด์ (โลหะแข็ง) กับคริสตัลแซฟไฟร์ที่แข็งแรงทนทานใกล้เคียงเพชรมาใช้ผลิตนาฬิกาที่ป้องกันรอยขีดข่วนได้จริง จนกระทั่งวันที่ 28 พ.ย. 1961 Rado ก็ได้จดสิทธิบัตรการใช้โลหะผสมชนิดโลหะแข็งมาใช้ผลิตตัวเรือนนาฬิกา และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่โลหะแข็งมาอยู่ร่วมกับคริสตัลแซฟไฟร์บนนาฬิการุ่นใหม่ดีไซน์โดดเด่นของ Rado ที่ชื่อว่า DiaStar

DiaStar-Rado ได้แถลงถึงนาฬิกาเรือนใหม่ ที่รูปลักษณ์งดงามและมีประโยชน์ใช้สอยดีเยี่ยมไว้ว่า ความทนทานคือปัจจัยสำคัญของผู้ซื้อในยุคหลังสงครามที่หลายคนยังกังวลถึงความอันตรายต่างๆ ดังนั้นนาฬิกาในยุคนี้จึงต้องใช้งานได้ยาวนานกว่ารุ่นใดๆ แบรนด์จึงนำทังสเตนคาร์ไบด์ (โลหะแข็ง) ที่มีความทนทานสูงมากกับคริสตัลแซฟไฟร์มาใช้ สร้างสรรค์เป็นนาฬิกาที่แข็งแกร่งราวกับเพชร และแม้จะใส่ไปแล้วหลายปีก็ยังคงเงางามส่องประกายราวกับดวงดาวอยู่ และนี่เองคือที่มาของชื่อ “DiaStar” ซึ่งไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน ชื่อนี้ก็ยังคงสะท้อนความตั้งใจและคาแร็กเตอร์ของเรือนต้นเมื่อ 61 ปีที่แล้วเสมอ

No comments:

Post a Comment

Pages