ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปทรงติดตามการดำเนินงาน โครงการ TO BE NUMBER ONE ณ จังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปทรงเยี่ยมสมาชิกและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดภูเก็ต ทรงเปิดชมรม TO BE NUMBER ONE และศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

โดยมีนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต, นายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต,นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต ,หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE และเลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE NUMBER ONE พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนจังหวัดภูเก็ตเฝ้ารับเสด็จ

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2545 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2555 จังหวัดภูเก็ตได้ประกาศเจตนารมณ์ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จนได้รับการยกย่องให้เป็นจังหวัดต้นแบบระดับเพชร จากการเข้าร่วมการประกวดมหกรรมรวมพล TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ เมื่อปี 2556 และปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตได้เป็นจังหวัด TO BE NUMBER ONE ต้นแบบระดับยอดเพชรปีที่ 6 ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมาย อายุ 6 – 24 ปี ของจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมเป็นสมาชิก TO BE NUMBER ONE คิดเป็นร้อยละ 99.48 มีชมรม TO BE NUMBER ONE ครบทุกประเภทรวม 503 ชมรม ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ สถานพินิจ เรือนจำและสำนักงานคุมประพฤติ มีศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ครบทุกประเภทรวม 60 แห่ง มีสัดส่วนเทียบกับเป้าหมายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกที่มีอำเภอ TO BE NUMBER ONE ครบ 3 อำเภอ 100%

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.หิรัญ ประสารการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ได้รับการเปลี่ยนสถานะจากเดิมคือสถาบันราชภัฏภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2547 ซึ่งปัจจุบันเป็นสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สังกัดกลุ่มที่ 3 กลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น (Area-based and Community Engagement) เปิดการสอนระดับการศึกษาปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในรูปแบบของโรงเรียนสาธิต และระดับปริญญาตรีจนถึงระดับปริญญาโท มีนักเรียน/นักศึกษา รวมจำนวน 9,630 คน คณะผู้บริหาร อาจารย์และบุคลากร รวมจำนวน 667 คน

มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตได้น้อมนำหลักการดำเนินการโครงการ TO BE NUMBER ONE มาเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในมหาวิทยาลัย ด้วยความร่วมมือจากคณาจารย์ บุคลากร ผู้ปกครองและหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของนักศึกษาแกนนำ ที่มีการจัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์และหลากหลาย พัฒนาเยาวชนให้เป็นคนเก่งและดี มีทักษะในการดำรงชีวิต รู้จักปฏิเสธสิ่งเสพติด และปลูกฝังทัศนคติ “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด”

นางสาวชนานันท์ ชลกิจ ประธานชมรม TO BE NUMBER ONE มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่าชมรม TO BE NUMBER ONE มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2563 ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 5 ปี มีกิจกรรมเด่น คือ จัดประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL ประจำปี จัดอบรมพัฒนาศักยภาพของสมาชิก TO BE NUMBER ONE และส่งสมาชิกเข้าร่วมค่าย TO BE NUMBER ONE CAMP เดอะไพน์รีสอร์ท อย่างต่อเนื่อง ผลสำเร็จที่ได้จากการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE คือ สมาชิกทุกคนมีพื้นที่ในการแสดงความสามารถ เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง มีเป้าหมาย ในชีวิต มีจิตอาสา ผู้ที่เคยมีพฤติกรรมไม่ดี ได้กลับตัว มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น และได้รับการยอมรับ สำหรับศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ศูนย์เพื่อนใจเปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ โดยมีอาสาสมัครประจำศูนย์เพื่อนใจ จำนวน 20 คน หลักในการทำงาน คือ เพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง กิจกรรมภายในศูนย์เพื่อนใจมีบริการให้คำปรึกษา การพัฒนา EQ โดยการร้อง เต้น เล่นเกมฝึกสมอง และศิลปะ

ในวโรกาสนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชทานพระอนุญาตให้สมาชิก“ใครติดยายกมือขึ้น” จากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเคยติดยาเสพติด และปัจจุบันมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกเสพ เข้าเฝ้าพร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจและคำแนะนำเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำในกลุ่มเสี่ยง และพระราชทานคำปรึกษาแก่สมาชิก TO BE NUMBER ONE จากสถานศึกษาต่างๆในจังหวัดภูเก็ต ที่ซักถามปัญหาซึ่งจะนำไปสู่การจัดการกับปัญหาอย่างเหมาะสม